เรียนท่านอาจารณืมีชัย ด้วย อปท.ของผมได้พิจารณาช่วยเหลือผ้ประกอบอาชีพงานก่อสร้าง ฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2551 ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุดที่ มท 0808.2/ว 2299 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม เรื่อง การพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้าง และผ้ประกอบอาชีพอื่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดย อปท. ได้รับหนังสือให้พิจารณาช่วยเหลือตามมติ ครม. โดยอ้างเหตุได้รับผลกระทบจากราคานำมัน และเศษฐกิจจากผู้รับจ้างที่ อปท.ปรับไว้เนื่องจากส่วมอบงานล้าช้าเกินกำหนดหลายสัญญา ซึ่งเป็นสัญญาที่ลงนามไว้ก่อน วันที่ 1 ตุลาคม 2550 และมีการส่งมอบงานและเบิกจ่ายเรียบร้อยแล้ว ต่อมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้เข้าตรวจสอบเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ฯ ไม่เป็นไปตามหนังสือสั่งการดังกล่าว ใน ข้อ 2 การขายระยะเวลาสัญญา /เพิ่มระยะเวลาสัญญา 2.1 สัญญาที่ลงนามก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ซึ่งยังมีผลผูกพัน และยังไม่ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือส่งมอบงานงวดสุดท้ายแล้ว เมื่อผ้รับจ้างขอ ให้หน่วยงานขยายระยะเวลาได้เท่ากับสัญญาเดิมแต่ไม่เกิน 180 วัน ทาง อปท.พิจารณาว่า คำว่าซึ่งยังมีผลผูกพัน หมายถึงสัญญาประกันงานก่อสร้าง 2 ปี ด้วย และคำว่าส่งงานงวดสุดม้ายแล้ว คือการส่งมอบงานก่อสร้างเรียบร้อยมีการตรวจรับแล้ว จึงเห็นว่าสัญญาที่ลงนามก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2550 และมีการส่งมอบและตรวจรับแล้วภายใน 180 วันนับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 ก็อยู่ในเงื่อนไขข้อ 2.1 จึงคืนค่าปรับให้ แต่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเห็นว่า อปท.ศึกษามติและหนังสือสั่งการไม่รอบคอบ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ให้เรียกเงินคืน
จึงขอสอบถามท่านอาจารย์ว่า หนังสือสั่งการ หรือมติ ครม. คำว่ายังมีผลผูกพัน หมายความรวมถึงการมีสัญญาค้ำประกันงานก่อสร้าง 2 ปี ด้วยหรือไม่ และผูกพันขนาดใด และคำว่าส่งงานงวดสุดท้ายแล้วหมายถึงการส่งมอบงานและตรวจรับงานเรียบร้อบแล้วหรือไม่ และหากความเห็นของ สตง. ถูกต้องแล้วการดำเนินการเรียกเงินคืนจากผู้รับจ้าง อปท.จะต้องเรียกคืนโดยการฟ้องแพ่งภายในอายุความ 1 ปี ในฐานะลาภมิควรได้หรือละเมิดครับ หรือฟ้องใช้สิทธิติดตามเอาคืนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิภายในอายุความครอบครองปรปักษ์ 5 ปี
อีกอย่างหนังสือสั่งการแรก ๆ ไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการ แต่พอมีการหารือเข้าไปมากในกรณีสัญญาก่อน 1 ต.ค. 50 และส่งงานงวดสุดท้ายตรวจรับงานเรียบร้อยเข้าข่ายหรือไม่ กระทรวงให้รอและระงับการพิจาณาไว้ก่อน แต่ อปท.ได้พิจาณาและให้ความช่วยเหลือเสร็จไปก่อนแล้ว จนกระทั้งกระทรวงการคลังแก้ข้อความในมติ ครม. ว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้ อย่างนี้ อปท.ดำเนินการแล้วเสร็จไปก่อนแล้ว เจ้าหน้าผ้ปฏิบัติดูไม่ดี หรือแนวทางไม่ชัดเจน และจะต้องรับผิดชอบในมูลละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐหรือไม่อย่างไร จึงขอความกรุณาท่านอาจารย์ได้พิจาณาช่วยตอบด้วยครับเจ้าหน้าที่ผู้น้อยต้องมารับกรรมจากหนังสือที่ไม่ชัดเจนต้องชดใช้เป็นเงินหลายแสนบาท และขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่จะกรุณาตอบให้คำแนะนำมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ