เรียนอาจารย์

        ปี 50- 51  มีหนังสือของ ก.ท.,ก.อบต.,ก.จ. ให้ท้องถิ่นสามารถจ่ายขาดเงินโบนัสจากเงินสะสมได้  โดยมีแบบฟอร์มและวิธีการชัดเจน

        ปี 52  มีท้องถื่นบางที่หารือเข้าไปอีกในกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น  ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตอบมาว่าจ่ายไม่ได้  เนื่องจากเงินสะสมไม่ใช่เงินเหลือจ่าย 

       ตามประกาศของ ก.ฯ ดังกล่าว  ใช้คำว่าเงินคงเหลือ  ไม่ใช่เงินเหลือจ่าย  เพราะวิธีคิดของคำทั้งสองต่างกัน  กระทรวงคล้ายจะตีความกฎหมายผิดคำ

สตง  เข้าตรวจ  เรียกคืนเงินโบนัสของปี 50  ที่มาจ่าย 1 ต.ค. 51 จ่ายขาดเงินสะสม  โดยยึดเอาหนังสือของปี 52  ที่ออกมาธันวาคม 

  เทศบาลหนูโดนไปร่วมล้าน  กฎหมายมีผลย้อนหลัง  ถ้าจะพูดตามศาลปกครองสูงสุดแล้ว  หนังสือราชการเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติ  แต่สตง  ไม่ดูแล้วว่ากฎหมายแม่ของท้องถิ่นมาว่าอย่างไร  คือจะต้องคืนท่าเดียว

       หนูจะชี้แจงอย่างไรดี  (อยู่ระหว่างการชี้แจงผู้ว่าฯ ในฐานะผู้กำกับดูแล)  เพราะว่า  การเรียกคืน เงินเดือน ค่าจ้าง  และประโยชน์ตอบแทนอื่นไม่มีกฏหมายกำหนดไว้ให้เรียกคืน  สตง  ก็ให้ทำในลักษณะละเมิด  คือเป็นสัดส่วนของ นายก 20 % การคลัง 60 %  ผู้เห็นชอบ 10 %   หน่วยงานผู้เบิกอีก 10% 

  อาจารย์คะ  เงินร่วมล้าน  ผู้รับผิดชอบมีอยู่แค่ไม่กี่คน  เจตนาจะทุจริตก็ไม่ใช่  หนังสือดังกล่าวก็มาทีหลังการเบิก  หนูควรทำอย่างไรดี  เฉลี่ยแล้ว  สัดส่วนการรับผิดทางละเมิด

  1. นายก 2 แสน

  2.  เจ้าหน้าที่การเงิน  6 แสน (มี 3 คนเซนต์หน้าฎีกา)

  3.  ปลัดฯ  1 แสน

  4.  หน่วยงานผู้เบิก  1 แสน 

ผู้ได้รับผลประโยชน์ไปแล้ว  54  ราย  ไม่มีกฎหมายให้เรียกคืน  ทำงานทั้งชีวิต  จะเก็บมาคืนได้ไหมละคะนี่  ขนาดทุจริตใช้เอกสารการศึกษาเท็จ  ศาลปกครองยังไม่ให้คืนเลย  แต่สตง. เอาเป็นสัดส่วน  ถือว่าทำผิดระเบียบ (แต่หนังสือตอบข้อหารือนั้น  มาทีหลังเป็นปีเลยค่ะ)