เงินกู้ รบกวนสอบถามด้วยครับ พี่ชาย(โสด)ไปกู้เงินธนาคาร 4.17 ล้าน ปี 48 โดยใช้บ้านและที่ดินชื่อของพี่ชายเองจำนองเป็นประกันไว้ โดยทำสัญญาเงินกู้กับธนาคารเองโดย ตอนนี้พี่ชายเสียชีวีต ปี 51 ไปแล้ว 2 ปีและไม่ได้ส่งเงินกู้ต่อ ธนาคารให้สำนักงานกฏหมายส่งหนังสือ มาให้ผม พี่สาวและแม่ ในฐานะทายาทโดยธรรม ขอให้ชำระหนี้และดอกเบื้ย รวม 3.5 ล้านและบอกกล่าวบังคับจำนอง ไม่งั้นจะดำเนินคดี ภายใน 30 วัน ตามที่ทราบ ผม พี่สาว และแม่ไม่ได้เป็นผู้ร่วมกู้ และไม่ได้รับมรดกใดใด จากพี่ชายจึงไม่จำเป็นต้องชำระหนี้แทน จึงเรียนถามว่าขั้นตอนจากนี้เราควรทำอย่างไรต่อเพื่อให้เรื่องจบ โดยบ้านและที่ดินของพี่ชายเรายินดีให้ธนาคารยึดไปเลย เพราะไม่มีปัญญาส่ง และขั้นตอนตามกฏหมาย ของเจ้าหนี้คิดว่าเขาคงส่งฟ้องศาล  ชื่อแม่ก่อนเพื่อยึดบ้าน   ถ้าเราได้รับหมายศาล เราไม่ต้องการตั้งทนายต่อสู้เพื่อเอาบ้าน แม่ไม่จำเป็นต้องไปตามหมายศาลได้หรือไม่   เพราะเราต้องการให้เขายึดบ้านไปอยู่แล้ว   หรือ ผมควรทำอย่างไรต่อ เช่น โทรไปเคลียรกับธนาคารให้จบ หรือ ต้องตั้งทนายจัดการต่อ รบกวนขอคำแนะนำ  และขั้นตอนการยึดบ้านไป  เราต้องเซ็นรับทราบหรือไม่   หรือทำอย่างไรให้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง     ขอบคุณครับ

คำตอบ

ถ้าเวลาเขาฟ้องแล้วไม่ไปศาล  ศาลก็จะพิพากษาให้พวกคุณชำระหนี้แทนผู้ตาย เพราะไม่มีใครไปบอกให้ศาลรู้ว่าได้รับมรดกมาคนละเท่าไร  เพราะตามกฎหมายทายาทต้องรับผิดในหนี้ของผู้ตาย แต่รับผิดไม่เกินจำนวนที่ได้รับมรดกมา  อนึ่ง เมื่อเป็นหนี้แล้วถึงจะมีการจำนองเป็นหลักประกัน แต่ถ้าขายทรัพย์จำนองได้เงินไม่พอ หนี้นั้นก็ยังคงมีอยู่และผลิตดอกเบี้ยเรื่อยไป  ถ้ามีเงินพอก็ควรหาทนายความไปสู้คดี ถ้าไม่มีเงิน ก็ควรต้องไปศาลอย่างน้อยก็ต้องไปบอกให้ศาลรู้ว่าได้มรดกอะไรมาบ้าง

เรียนถามอาจารยเพีมเติมครับ

     การมีทนายไปต่อสู้ กับการไปศาลเองมีอะไรต่างกันบ้างครับ  หรือมอบอำนาจให้ทนายไปดำเนินการแทนได้ไหมครับ เนื่องจากแม่อายุมากแล้วกระดูกหลังงอเดินลำบาก     ค่าทนายคิดอย่างไร  ประมาณเท่าไรครับ

การไปศาลโดยมีทนายกับไม่มีทนาย ก็เหมือนกับเวลาเป็นวรรณโรค แล้วไปหาหมอให้ช่วยรักษา กับซื้อยาหม้อมาต้มกินเอง โชคดีก็หายได้เหมือนกัน แต่ส่วนมากมักจะตาย  ส่วนเมื่อมีทนายแล้ว ตัวความก็ไม่จำเป็นต้องไปศาล เพราะทนายความเขาไปแทนให้ แต่ต้องเลือกทนายที่ไว้ใจได้ ส่วนค่าทนายคงต้องคุยกับทนายเอง