กราบสวัสดีค่ะ ท่านมีชัย
สืบเนื่องจากดิฉันได้มีคดียักยอกทรัพย์จากนายจ้าง เเละนายจ้างจับได้เเละเเจ้งความดำเนินคดีไปเเล้ว โดยยอดเงินจำนวน เกือบ 200,000 บาท เเละดิฉันได้ชำระไปบางส่วนเเล้ว ทั้งนี้นายจ้างยังได้ทำการยึดรถซึ่งเป็นชื่อของคุณพ่อไว้เพื่อเป็นหลักประกันในการที่จะใช้เงินคืน เเละต้องนำเงินส่วนที่เหลือไปชำระเพื่อจะเอารถออกมา (เหตุเกิดเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 53 ณ วันนี้นายจ้างยังไม่ติดต่อมาเพื่อให้ไปนำรถออกเลย ดิฉันติดต่อไปเเล้วว่าพร้อมจะใช้เงินคืน เเต่นายจ้างเเจ้งว่ายังไม่พร้อม)
วันที่ 21 ธันวาคม 53 นายจ้างได้ตรวจพบเพิ่มเติมว่าจำนวนเงินที่ดิฉันยักยอกไป เป็นการนำไปชำระหนี้ให้กับพนักงานท่านอื่นๆ จึงได้เรียกพนักงานกลุ่มนั้นไปสอบถาม พนักงานท่านนั้นเเจ้งกับนายจ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของดิฉัน (มีพนักงานประมาณ 8 ท่านที่ดิฉันชำระหนี้เเทนไปให้) ทั้งนี้ในเอกสารการชำระหนี้ ดิฉันได้เซ้นชื่อของพนักงานท่านนั้นไป ดิฉันอยากทราบว่าในกรณีดังกล่าว ดิฉันจะต้องโดนข้อหาอย่างไรบ้าง เเล้วมีวิธีประณีประนอมไหมค่ะ (เท่าที่ทราบมาว่าคดีการปลอมเเปลงลายเซ็นต์ เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความกันได้)
ขอขอบพระคุณท่านมีชัยอย่างสูง
ผู้สงสัย
สำหรับเงินและรถก็ต้องรอจนกว่านายจ้างเขาจะว่างหรือพร้อม เพราะคุณเป็นผู้ทำผิด คงไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรมากนัก
ส่วนการปลอมแปลงเอกสารนั้น เป็นความผิดยอมความไม่ได้ คุณก็ได้แต่หวังในความกรุณาของเพื่อน ๆ ที่คุณปลอมลายมือชื่อของเขาว่าเขาจะไม่ไปแจ้งความ เพราะเขาได้รับประโยชน์จากการที่คุณชำระหนี้แทน ว่าแต่ว่าคุณเป็นอะไรไปหรือ อุตส่าห์ยักยอกเงินของบริษัทเพื่อเอาเงินไปชำระหนี้แทนคนอื่น โดยลูกหนี้เขาไม่ได้ร้องขอ ถึงขนาดไปปลอมลายมือชื่อของเขาเพื่อชำระหนี้ให้เขา