เรียนอาจารย์มีชัยที่นับถือ

ดิฉันตั้งบริษัทมาได้หลายปีแล้วคะ เป็นคนลงเงินเองทั้งหมด 100% มีหุ้นเป็นชื่อตัวเอง 44% และชื่อลูกอีก 5% และมีเพื่อนๆ ถือเป็นหุ้นลมในส่วนที่เหลือ (51%) หุ้นได้ชำระ 100% แล้ว หนึ่งในเพื่อนที่เป็นหุ้นลมเป็นกรรมการที่มีอำนาจเซ็นต์เอกสารของบริษัท และมีหุ้นลมมากที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งหมดตอนที่จัดตั้งบริษัท ดิฉันรับผิดชอบดูแลฝ่ายผลิต และเพื่อนกรรมการหุ้นลมคนนี้ดูแลการตลาด ขาย การเงิน และอื่นๆ ทั้งหมด

เมื่อปีที่แล้วดิฉันได้มาพบว่า ผู้ถือหุ้นได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และลดเหลือแค่ 4 คน หุ้นของดิฉันและลูกยังเหมือนเดิม แต่เพื่อนกรรมการหุ้นลมนี่ซิคะโตขึ้นกลายเป็น 50.5% ส่วนอีกหุ้นลมคนสุดท้ายเป็น 0.5%

ปัญหาในขณะนี้ก็คือดิฉันถูกเขี่ยออกไปจากบริษัท เข้าโรงงานก็ไม่ได้ ไม่สามารถเข้าบริษัทได้เลย พนักงานทุกคนถูกสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อด้วย และดิฉันยังถูกขู่จากเพื่อนกรรมการหุ้นลมคนนี้ว่า ค่ากระสุนถูกมากๆ นะ ถ้ามีปัญหามากนัก

ดิฉันได้สืบทราบมาว่า เพื่อนได้เอาเงินหมุนเวียนของบริษัทไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย บริษัทกู้ธนาคารไปแล้วหลายครั้งเพราะไม่มีเงินสดหมุนเวียน การผลิตก็ไม่ได้ผลดี เพราะวิศวกรและหัวหน้างานถูกให้ออกจากงาน สินค้าบริษัทที่เคยวางบนชั้นตามห้างก็ไม่สม่ำเสมอเหมือนก่อน คนงานก็เหลือน้อยลง เพราะเพื่อนทำไม่เป็นไงคะ

ดิฉันจะมีช่องทางทางกฎหมายที่จะทำยังไงได้บ้างหรือเปล่าคะ ที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปจากบริษัทโดยสิ้นเชิง และให้เขาโอนหุ้นคืน (โดยที่บริษัทไม่ต้อง Buy-this shareholder out)

อ่านตามเว็ป เขาบอกว่า กรมพัฒนาการค้ามีกฎหมายคุ้มครองผู้ถือหุ้นที่มีเสียงข้างน้อย (ก็คือดิฉันและลูก) ต่อผู้ถือหุ้นข้างมากที่บริหารงานเสียหาย และดิฉันต้องเริ่มต้นยังไงคะ จากใครที่ไหน

อีกข้อมูลหนึ่งก็คือ ดิฉันจะสามารถใช้เรื่องธรรมาภิบาลจัดการกับกรรมการบริษัทเพื่อนคนนี้ ที่บริหารงานบกพร่องไม่โปร่งใสได้ไหมคะ และดิฉันต้องเริ่มต้นยังไงคะ จากใครที่ไหน

เป็นพระคุณอย่างสูงที่ช่วยกรุณาแนะนำคะ

ด้วยความเคารพ

นภัสสร