อ้างถึงหมายเลขคำถามที่042953 เรียกร้องความเป็นธรรม ( ต่อ )
ข้าแด่องค์พระสยามเทวาธิราช หากการให้การสอบถามของข้าพเจ้ามีข้อมูลใดที่เป็นเท็จ ขอให้อุปทวละความชิบหายทั้งปวงจงบังเกิดแก่ตัวข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าแต่ถ้าหากข้อมูลทุกประการเป็นจริงขอให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้ด้วยเทอญ
เรียน ท่านอาจารย์มีชัยที่เคารพ
กระผมนายวุฒิชัย โสภาผล เป็นจำเลยในคดีเรื่อง ละเมิด ประกันภัย รับช่วงสิทธิ
กระผมให้การแก่ร้อยเวรด้วยคำเท็จเพราะหลงผิดคิดว่าคดีจะจบลงโดยง่าย ด้วยความไม่เคยเรียนรู้ข้อกฎหมายประกอบกับเคยได้ยินได้ฟังมาบ้างว่าการที่รถถูกขับมาชนอย่างไรก็ถูกเสมอ และในความเป็นจริงกระผมมิได้เป็นผู้ขันรถขันที่เกิดเหตุแต่กระผมเป็นเจ้าของรถที่นั่งมาในรถด้วย ส่วนคนขับเป็นเพื่อนซึ่งไม่มีใบขับขี่ กระผมจึงออกรับเป็นผู้ขับขี่เอง ด้วยความตกใจกลัวว่าการที่คนขับไม่มีใบขันขี่นั้นจะทำให้รถถูกยึด กลัวว่าจะไม่มีรถไปทำงาน และกลัวจะถูกเรียกเก็บเงินค่าปรับมาก จนลืมนึกไปว่าตนเองเพิ่งจะดื่มสุรามา
ปัจจุบันคดีตัดสินชั้นอุทธรณ์ผ่านไปแล้วให้กระผมเป็นผู้ผิดและต้องชำระค่าเสียหายให้แก่บริษัทประกัน ทั้งๆที่ในบันทึกประจำวันของร้อยเวรให้มีการเปรียบเทียบปรับทั้งคู่และให้ต่างคนต่างซ่อมรถของตน กระผมยอมเซ็นชื่อรับผิดด้วยความกลัวต่อคำพูดของร้อยเวรซึ่งมีหลักฐานผลตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ซึ่งเกินกฎหมายอยู่ในมือ และในวันเกิดเหตุก่อนที่จะมีการเจรจากันในตอนเช้าเจ้าหน้าที่ได้คุมขังกระผมทำให้ยิ่งเกิดความหวาดกลัวต่อคำพูดของร้อยเวรซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
การที่ผมถูกขับรถชนและยังตกลงกันไม่ได้ด้วยว่าใครผิดใครถูก แต่ผมต้องนอนในคุก ส่วนคู่กรณีที่ขับรถมาชนผม กลับได้ไปนอนที่บ้านพักครูฝึกใน สภอ.ที่เป็นของบิดา จริงๆเป็นการจัดฉากตั้งแต่แรกเพื่อยัดเยียดข้อหาให้กระผมไม่มีน้ำหนักที่จะฟ้องแล้วร้อยเวรก็มาบอกว่า"คุณไม่มีสิทธิเรียกร้องคุณเป็นผู้กระทำให้เกิดเหตุ" ความยุติธรรมที่ผมจะได้รับมิได้มีตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะพวกเขารู้กฎหมายกันส่วนผมหลงเชื่อในความอยุติธรรมไปตามเกมที่เขาได้วางกันไว้ให้ยินยอมต่างคนต่างซ่อมไปก่อนเมื่อเรื่องดำเนินผ่านไปจนใกล้หมดอายุความจึงมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผมโดยให้บริษัทประกันเป็นผู้ฟ้อง ผมต้องตกเป็นจำเลยโดยไม่มีเวลาให้ฟ้องกลับ ทุกสิ่งทุกอย่างในขบวนการพวกเขารู้เห็นกันหมดรวมทั้งร้อยเวรที่ทั้งเกลี่ยกล่อมทั้งข่มขู่จนผมต้องจนใจยอมตลงต่างตนต่าซ่อม
ภายหลังเวลาผ่านไปใกล้ครบรอบปีอายุความกระผมถูบริษัทประกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า200,000 บาท และร้อยเวรเป็นพยานเบิกความต่อศาลชั้นต้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรถของกระผมขับเปลี่ยนช่องทาง ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วรถของกระผมอยู่ในช่องทางเดินรถด้านซ้ายโดยตลอดแม้ระทั่งขณะถูกชนภาพถ่ายรูปล้อรถก็อยู่ในช่องเดินรถด้ายซ้าทั้ง4ล้อ
ภายหลังกระผมได้ทราบจากการเจรจาขอภาพถ่ายร่องรอยการเกิดเหตุกับร้อยเวรหลังศาลอุทธรณ์แล้วแต่ได้รับการปฏิเศษและได้ทราบว่าผู้ที่ขับรถมาชนรถของกระผมเป็นลูกของครูฝึกในโรงพักเดียวกันกับร้อยเวรคนดังกล่าว ดังนั้นกระผมเชื่อได้ว่ามีข้อมูลบางประการมิได้เปิดเผยให้ศาลได้รับทราบ เป็นเหตุให้ศาลทานให้คำตัดสินตามคำเบิกความของร้อยเวรซึ่งศาลวินิจฉัยว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติการไปตามหน้าที่ ไม่มีส่วนได้เสียกับฝ่ายใด
ผมเคารพในคำตัดสินของศาลและเชื่อว่าศาลท่านให้ความเป็นธรรมเสมอมา เพียงแต่ต้องการชี้ให้ศาลท่านเห็นความไม่เป็นธรรมจากการถูกตำรวจนอกรีตผู้หนึ่งที่เลือกปฏิบัติให้ความสะดวกแกพวกพ้องของตน รังแกราษฎร ดังที่ร้อยเวรซึ่งเป็นพักพวกเดียวกันกับคู่กรณีได้รับเชิญให้มาเป็นพยาน แล้วเบิกความเท็จต่อศาลว่ากระผมขับรถเปลี่ยนช่องทางกระทันหัน ทั้งที่จริงแล้วมิได้เปลี่ยนช่องทางหรือขับเร็วแต่อย่าใด อีกทั้งคู่กรณีก็รับว่าขับรถด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังและคู่กรณีก็ถูกเปรียบเทียบปรับด้วยเช่นกัน
เพียงเพราะตำรวจผู้นี้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นหรือจึงมีน้ำหนักเชื่อถือได้มากกว่าพยานรูปภาพเหตุการณ์และพยานบุคคลอื่นๆ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ตลอดช่วงการณ์เกิดเหตุที่มีการเบิกความในศาลชั้นต้นมาแล้ว และขณะเกิดเหตุร้อยเวรคนดังกล่าวก็มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมๆกับญาตพี่น้องของกระผมและมีการโต้เถียงกันขึ้นในเรื่องของลัษณะการเกิดเหตุการณ์ด้วย
ข้อความที่เบิกความของกระผมในชั้นต้นก็ยืนยันว่าขับอยู่ในช่องทางซ้ายและเพื่อนที่ขับมอเตอร์ไซค์ตามมาก็เบิกความว่าเห็นเหตุการณ์ตลอดว่ารถของกระผมมิได้มีการเปลี่ยนช่องทางเดดินรถต่อย่างใด
และเมื่อเป็นเช่นนี้ร้อยเวรผู้นี้ยังคงความเป็นกลางและเป็นผู้ซึ่งศาลท่านให้ความเชื่อถือได้อีกหรือแล้วความยุติธรรมใดๆในผืนแผ่นดินของเราที่จะมีให้แกราษฎรที่ไม่มีพักไม่มีพวกได้พึ่งพิง
จากข้อมูลดังกล่าวกระผมสามารถร้องต่อศาลยุติธรรม ในเรื่องการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าพนักงานสอบสวน เพื่อชี้ให้ศาลท่านเห็นถึงความไม่เป็นกลางของนายตำรวจผู้นี้ เพื่อให้การเบิกความเท็จได้ปราฏแก่ศาล
หรือเรียกร้องจากการที่บริษัทประกันอาศัยช่องทางกฎหมายมาฟ้องร้องสิทธิทั้งที่กระผมได้มีการตกลงในบันทึกประจำวันไว้กับคู่กรณีล้วว่าว่าต่างคนต่างซ่อมได้หรือไม่
ด้วยความเคารพอย่างสูง |