กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ  กระผมถูกจับเมื่ออายุ๑๕ปี พร้อมกับพวกตอนเรียน ม.๓ (เพื่อนซึ่งมีอายุมากกว่าประมาณ ๒ป๊รวม๓คนพ.ศ.๒๕๒๗ คดีลักทรัพย์และรับของโจรรวม ๓ คดี ศาลลงโทษโดยไม่ส่งสถานพินิจเด็ก จำคุกรวม๒ปี๖เดือน พ้นโทษพ.ศ.๒๕๓๐อายุ๑๘ปี  ประมาณ๗เดือน โดนข้อหามีอาวุธปืนเถื่อนศาลตัดสินจำคุก ๙ เดือนปีพศ.๒๕๓๑ พ้นโทษตอนปลายปีเมื่ออายุ๑๙ปีและต่อมาอีก ประมาณ๑๐ปี ปลายพศ.๒๕๔๑ โดนจับคดี พรบ.ยาเสพติด สู้คดีโดนทนายศาลตั้งให้แพ้ศาลต้น อุทธรณ์ชนะปล่อยออกมา ศาลฎีกาแพ้ตัดสินจำคุก๖ปี๘เดือนพ้นโทษปีพศ.๒๕๔๗ ในระหว่างต้องโทษเรียนต่อ มสธ. สาขานิติศาสตร์  จึงได้ทราบว่า พรบ.ล้างมลทิน มีมาตั้งแต่ปีพศ.๒๕๓๙และท้ายเมื่อพศ.๒๕๕๑

 มีปัญหาขอความกรุณาดังนี้

๑.เมื่อผมเรียนจบกระผมสามารถสอบเข้าอบรมเป็นทนายความได้หรือไม่ และในช่องประวัติเกี่ยวกับการต้องโทษมาก่อน สมควรกรอกว่าอย่างไร

๒.ผมสามารถเรียนต่อ เนติบัณฑิตได้หรือไม่ และควรกรอกประวัติช่องที่เกี่ยวกับเคยต้องโทษว่าอย่างไรในการสมัคร

๓.ผมสามารถขอรับใบ ป.๓ เรื่องขอซื้ออาวุธปืนต่อนายทะเบียนได้หรือไม่ในกรณีที่ ไม่อนุญาต จะอุทธรณ์ต่อ รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทยเรื่องดุลพินิจได้หรือไม่ หากนายทะเบียนไม่อนุญาตเนื่องจากเคยมีประวัติมาก่อนเมื่อตอนยังไม่บรรลุนิติภาวะ

๔.หากกระผมจะขอหลักฐานการได้รับประโยชน์จาก พรบ.ล้างมลทินเพื่ออุทธรณ์กรณีต่างๆที่ได้กล่าวมา สามารถขอได้จากที่ไหนครับ ผมอยู่ต่างจังหวัด และต้องมีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วยเพื่อความสมบูรณ์หรือไม่ครับ

ขอบพระคุณท่านอาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้องมากครับที่ไขปัญหาต่างๆ ในที่แห่งนี้ ยังมีคนอีกมากที่ไม่ได้รู้และไม่มีโอกาสต่อสู้ และขอบคุณ มสธ.ที่มาถึงก่อนลมหายใจผมจะไม่มี ขอบพระคุณครับ

1-2  ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสภาทนายความกับเนฯ เขามีระเบียบข้อบังคับว่าอย่างไร ลองเปิดดูในเว็บก็น่าจะมีบอก  ส่วนเรื่องการกรอกประวัตินั้น ควรต้องกรอกไปตามความเป็นจริง

3. ดูเหมือนคนที่จะมีอาวุธปืน เขาจะดูประวัติการประกอบอาชญากรรมอยู่ด้วย เพราะไม่ต้องการให้ใช้อาวุธไปก่ออาชญากรรม  คุณเคยต้องโทษมาหลายครั้ง ซึ่งอาจแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่า ขาดการควบคุมตัวเองที่ดี  การมีอาวุธปืน น่าจะเป็นอันตรายแก่ตัวเองและผู้อื่น มากกว่าจะเป็นประโยชน์

4. การล้างมลทิน ไม่มีการออกหลักฐานอะไรให้ใครเป็นการเฉพะ เพียงแต่เอากฎหมายให้เขาดู ทุกคนก็รู้เองว่าใครได้รับการล้างมลทินบ้าง