กราบเรียนท่านอาจารย์มีชัยด้วยความเคารพ

        ผม(จำเลย) จะขอขยายเวลาในการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น  คดีอาญา ( ข้อหาบุกรุกคันคลองสาธารณะ  โทษรอลงอาญา 2 ปี ปรับ  1  หมื่นบาท )   เนื่องจากได้ไปติดต่อขอคัดสำเนาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้องแล้ว  เจ้าหน้าที่ธุรการศาล  ยังไม่พิมพ์สำนวนคำพิพากษาหรือพิมพ์  ยังไม่แก้ไข ยังไม่ขัดเกลาสำนวณ  ในเอกสารที่เกี่ยวกับการเบิกความของทั้ง 2 ฝ่าย  ส่งไปยังหน่วยเก็บสำนวน  ซึ่งพิพากษาชั้นต้น ตัดสิน  วันที่  27  ตุลาคม 53

        ในการนี้  การขอขยายเวลาอุทธรณ์     เมื่อศึกษา  ตรวจดูสำนวณ  และเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว  พิจารณาว่าไม่ควรอุทธรณ์  จึงอยู่เฉย ๆ ขอกราบเรียนปรึกษาท่าน  ดังนี้

  1.  จะมีความผิดอย่างใดหรือไม่  เมื่อขยายเวลาแล้วไม่อุทธรณ์

  2.  การอุทธรณ์  จำเลยสามารถเขียนคำอุทธรณ์เองได้หรือไม่ หรือให้ทนายเขียน

  3.  ทนายที่ปรึกษาคดี ในศาลชั้นต้นคนเก่า  หากมีการอุทธรณ์  จำเลยต้องเสียค่าใช้จ่าย (ค่าจ้าง)  เพิ่มเติมอีกหรือไม่

  4.  หากจ้างทนายคนใหม่  จะมีวิธีดำเนินการอย่างไร  ทนายคนเก่าต้องทำบันทึกเอกสารอะไรให้จำเลย  หรือทนายคนใหม่  หรือไม่

  5. หากไม่อุทธรณ์  โจทย์จะนำคำตัดสินคดีอาญาของศาลชั้นต้น  ไปเป็นหลักฐานฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้หรือไม่ (พิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากคันคลอง)

  6. โจทย์(อัยการ) และทนายร่วมของโจทย์ (อบต)  จะดำเนินการอุทธรณ์  ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่ต้องรอลงอาญา  หรือฎีกาไม่รอลงอาญา ( โทษจำคุก 2 ปีรอลงอาญา  ปรับ 1 หมื่นบาท)  เป็นไปได้หรือไม่  ใช้เวลาดำเนินการกี่ปี

      กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

1. เป็นสิทธิที่จะอุทธรณ์หรือไม่ก็ได้

2. ถ้ามีความรู้ก็ทำเองได้  แต่ควรระวังอย่าไปเขียนอะไรว่าศาล เพราะอาจกลายเป็นละเมิดอำนาจศาลได้

3. ก็สุดแต่เคยตกลงกันไว้ว่าอย่างไร ถ้าตกลงกันว่าค่าจ้างว่าความรวมทั้ง ๓ ศาล ก็ไม่ต้องเสียค่าจ้างเพิ่ม แต่ถ้าไม่ได้ตกลงอะไรไว้ ส่วนใหญ่เขาก็คิดค่าจ้างเป็นศาล ๆ ไป

4. สุดแต่ทนายเขาจะต้องการอะไร

5. เมื่อไม่อุทธรณ์ คดีก็ถึงที่สุด ฝ่ายชนะคดีเขาก็ย่อมนำคำพิพากษานั้นไปใช้เป็นประโยชน์ได้

6. เดาใจเขาไม่ถูกหรอก