กราบเรียน ท่านอาจารย์มีชัยที่เคารพ

เรื่องมีอยู่ว่า นาย ก. (ผู้เช่า) พื้นที่ในตลาดนวนคร ซึ่งนวนครเป็นเจ้าของโครงการ เจ้าของที่ (ผู้ให้เช่า) ไม่ได้ทราบราคาที่แท้จริงว่าเช่ากันเท่าไร ขณะเดียวกัน นาย ก. เอาพื้นที่ที่ตัวเองเช่า แบ่งเป็นล๊อก เพื่อให้ผู้อื่นเช่าต่อ..

ข้าพเจ้าได้เช่าพื้นที่ 1 ล๊อก (ผู้เช่าช่วง) จากนาย ก. โดยได้ทำสัญญาและมีค่ามัดจำ 20,000 บาท พร้อมด้วยค่าเช่ารายเดือรล่วงหน้า 1 เดือน จำนวนเงิน 10,000 บาท รวมเป็นเงินที่จ่ายให้นาย ก. จำนวน 30,000 บาท (จ่ายแล้ว) โดยทำสัญญา 3 เดือน ซึ้งสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย.2553 ข้าพเจ้าจะไม่ต่อสัญญา

แต่ปัญหาดังเกิดขึ้นเมื่อ..ระหว่างสัญญายังไม่สิ้นสุดนาย ก. มีปัญหาทางการเงินกับเจ้าของโครงการซึ่งเป็นผู้ให้เช่าเป็นคู่สัญญากับนายก. (ผู้เช่า) และก็หนีไปไม่ปรากฎว่าไปอยู่ที่ไหน อย่างไร (ไม่ทราบว่าเป็นหรือตาย ร้ายดีอย่างไร) แล้วในขณะเดียวกันนั้น มีเพื่อนหรือคนที่รู้จักนายก.เข้ามารับผิดชอบแทนนายก. โดยอ้างว่า มาติดต่อชดใช้จ่ายค่าเช่าแทนนายก.กับเจ้าของโครงการ แล้วก็เข้ามาเก็บค่าเช่ากับข้าพเจ้าเป็นปกติแทนนาย ก.

และบัดนี้ใกล้หมดสัญญาแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่ต่อสัญญา คำถามคือ

1 อยากทราบว่าข้าพเจ้าจะเรียกเงินมัดจำจำนวน 20,000 บาทจากใคร

2. ใครบ้างต้องคืนหรือชดใช้ค่ามัดจำดังกล่าว

3. การที่เพื่อนหรือคนรู้จักของนายก.เข้าเก็บค่าเช่าแทนนายก.มาโดยตลอด หลังจากที่นายก.หนีไปนั้นเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร

4. และจะต้องดำเนินการอย่างไร..กับใคร..หรือมีวิธีใด ที่จะให้ได้เงินมัดจำคืน

กราบขอบพระคุณอาจารย์ ขอให้อาจารย์ทำหน้าที่นี้สืบต่อไปนะครับ

1. ก็ต้องเรียกเอาจากคนที่รับมัดจำไป

2. คนที่รับเงินไป ก็ต้องคืนเงินค่ามัดจำนั้น จะไปทวงจากคนอื่นคงไม่ได้ เว้นแต่จะได้ความว่าเจ้าของที่ดินได้ตั้งให้ นาย ก.เป็นตัวแทนของเขา

3. อาจชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ถ้าเขาเป็นตัวแทน นาย ก. เขาก็อาศัยสิทธิของนาย ก.มาเก็บ แต่ถ้าเขาไม่ได้เป็นอะไรกับนาย ก.เลย เขาก็ไม่มีสิทธิมาเก็บได้  ถ้าเขามาหลอกคุณว่าเขาเป็นตัวแทน แต่ตามความเป็นจริงเขาไม่ได้เป็น เขาก็อาจมีความผิดฐานฉ้อโกงได้

4. กับ นาย ก. ก็ต้องไปตามหาตัวเพื่อจะได้เอาเงินคืน  กับคนที่มาอ้างว่าเป็นคนของ นาย ก. ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเขาเป็นอะไรกันจริงหรือไม่ มีหลักฐานอะไร และนาย ก.รับรู้การกระทำของเขาหรือไม่