ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    042545 ถูกเขาหลอกคนที่มีทุกข์อย่างมาก5 พฤศจิกายน 2553

    คำถาม
    ถูกเขาหลอก

    เรียน ท่านอาจารย์มีชัย

             ผมขอรบกวนท่านอาจารย์ด้วยครับ ก่อนอื่นผมขอเล่าข้อเท็จจริงให้อาจารย์ช่วยกรุณาพิจารณาดังนี้

             ผมทำธุรกิจขายตรงแบบเครือข่าย เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2553 ได้รู้จักกับผู้หญิงซึ่งเป็นผู้มุ่งหวังคนหนึ่ง ผ่านน้องสาวของเขาซึ่งเขาเล่าเรื่องราวชีวิตของพี่สาวเขาคนนี้ให้ฟังว่า เป็นคนขยันขันแข็ง มีภาระหนี้สินมาก ลูกกำลังเรียน ได้ผัวฝรั่ง ตอนนี้กำลังตกงาน ผัวฝรั่งไม่ส่งเงินมาให้ใช้ และมีคนรู้จักเยอะ ผมดูแล้วเขาคุยเก่งมาก ผมจะคุยไม่ทันเขาเลย หลังจากได้รู้จักกันประมาณ 3 วัน เขาก็ขอยืมเงินผมประมาณ 50,000.- บาท โดยอ้างว่าเพื่อไปสมทบซื้อที่ดินทำไร่ เขาบอกว่าเขามีเงินส่วนตัวอยู่ประมาณ 50,000.-บาท ผมฟังแล้วรู้สึกสงสาร จึงคิดว่าถ้าเป็นคนขยันขันแข็ง อยากจะช่วยให้เขามีงานทำ เลยหายืมเงินนอกระบบมาให้เขาไปเพียง 10,000 บาท ไม่กล้าให้มากเพราะพึ่งรู้จักกัน แต่ที่ให้เพราะเห็นว่าน้องสาวเขาเป็นครู มีงานทำเป็นหลักแหล่ง สงสารและอยากให้เขามีงานทำ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ เลยชวนเขามาเป็นทีมงานขายตรงแบบเครือข่าย แต่เขาว่าไม่มีเงินสมัคร และซื้อสินค้า รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเหมารถยนต์เพื่อไปหาทีมงานเพื่อขยายเครือข่ายเพิ่มในกลุ่มคนที่เขาบอกว่ารู้จัก ผมก็เลยตัดสินใจไปยืมเงินนอกระบบมาเป็นค่าใช้จ่ายให้ดังกล่าวอีก 20,000.- บาท เพื่อเป็นค่าสมัคร 500 บาท และค่าสินค้าอีก 14,500 บาท นอกนั้นก็เป็นค่าใช้จ่ายอื่น  เมื่อสมัครแล้วผมเห็นว่าเป็นทีมงานแล้วและด้วยใจอยากช่วยเหลือเขา ก็ยอมให้เขาเอาสินค้าไปใช้และขายทั้งหมด เขาบอกว่าถ้าผัวฝรั่งเขาส่งเงินมาให้ภายในเดือนสิงหาคม 2553  เขาจะชำระเงินที่ยืม 10,000 บาท และค่าสินค้ารวมค่าสมัครทำธุรกิจ 15,600 บาท ให้ผมคืนทั้งหมดภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2553 หรือถ้ามีรายได้จากการทำธุรกิจก็ให้ผมทะยอยหักเอาจนครบ ส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายอื่นผมยอมจ่ายไปไม่ขอเอาคืน ผมเห็นว่าเป็นทีมงานเลยไม่ได้ทำหลักฐานสัญญาเงินกู้ไว้ แต่พอเขามีรายได้จากการทำธุรกิจนี้เขากลับเบี้ยวผมไม่ชำระตามที่ตกลงกันไว้  ทำให้ผมต้องมีภาระในการชำระให้เจ้าหนี้นอกระบบที่ยืมมา ผมได้ทวงถามหลายครั้ง เขาก็ไม่ชำระ เมื่อวันที 5 พฤศจิกายน 2553 ผมจึงทำหนังสือทวงถาม ในท้ายหนังสือระบุว่าถ้าเขาไม่ชำระภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือผมจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ผมนำหนังสือไปฝากไว้กับแม่เขา เพราะเขาไม่อยู่ พอเขากลับมาเห็นหนังสือดังกล่าว เขารีบโทร.มาท้าทายเลยว่าให้ผมฟ้องเลย เขาไม่ชำระให้หรอก และไม่กลัว เพราะไม่มีหลักฐานการกู้ยืมอะไร อาจารย์ครับผู้หญิงคนนี้ ผมพึ่งมารู้ข้อมูลเขาเพิ่มเติมจากชาวบ้านภายหลังจากที่ผมได้ให้เงินเขาไปแล้ว ประมาณ 2 สัปดาห์ ว่า ชาวบ้านละแวกนั้นไม่มีใครคบแล้ว เพราะทำตัวเป็นแบบ 18 มงกุฎ คือ ชอบหลอกเอาเงินชาวบ้านเขาแล้วไม่ใช้คืน ชอบเล่นการพนัน ชาวบ้านเขายังว่าผมไปคบได้ไง  และที่ว่าซื้อที่ดินที่ผมให้ยืม 10,000 บาท นั้น ผมไปถามเจ้าของที่ดินเขาบอกว่าผมโดนหลอกแล้ว เพราะเขาไม่ได้ขายที่ดินให้ผู้หญิงคนนี้เลย ดังนั้นผมจึงขอถามอาจารย์ ดังนี้

        1. ผมจะทำอย่างไรถึงจะได้เงินคืนครับ

        2. ผมไม่ได้ทำหนังสือกู้ไว้ ถ้าผมจะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาอื่นได้หรือไม่ เพื่อให้ได้เงินคืน เพราะต้องไปชำระเจ้าหนี้นอกระบบ เช่น ฉ้อโกง หรือยักยอกทรัพย์ เพราะเอาสินค้าไปทั้งหมด แล้วไม่คืนเงินค่าสินค้าให้ผม  แล้วทำให้ผมต้องรับภาระอีก ผมควรทำอย่างไรบ้าง

        สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณท่านเป็นอย่างสูง หวังว่าคงได้รับความเมตตาจากท่านในการช่วยชี้แนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงครับ

                                  คนที่มีทุกข์อย่างมาก

     

    คำตอบ

    คุณเล่ามาเองตอนต้นว่าที่ให้ยืมเงินไปก็เพราะความสงสาร เมื่อให้ด้วยความสงสารแล้ว ก็ถือว่าได้กุศลแล้ว และเป็นบทเรียนในการทำความดีต่อไป ว่าความดีที่จะถือว่าเป็นความดีได้นั้น ต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน และไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย

         การกู้ยืมเงินที่เกิน ๒ พันบาท ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผูกู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องบังคับกันไม่ได้ ส่วนข้อหาอื่นนั้นก็คงยาก เพราะคุณให้ไปด้วยความสงสาร เขาไม่ได้มาหลอกลวงอะไรคุณ


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    5 พฤศจิกายน 2553