พ่อมีหนี้บัตรเครดิตและบัตรเงินสดกับธนาคารอย่างละใบ และมีหนี้ที่ติดโอดีกับธนาคารนี้ในนามของหจก. โดยมีน้องชายนำบ้านค้ำประกันไว้ ต่อมาพ่อป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ และไม่สามารถชำระหนี้ได้ จนธนาคารมอบหมายให้สำนักทนายความหนึ่งมาทวงหนี้ ดิฉันและน้องชายช่วยกันชำระหนี้บัตรเครดิตจนหมดแล้ว ต่อมาทางธนาคารก็มอบหมายให้สำนักทนายความอีกรายหนึ่งมาทวงหนี้บัตรเงินสด ซึ่งคราวนี้ดิฉันและน้องชายไม่สามารถที่จะชำระหนี้บัตรเงินสดไหวเพราะตัวเองก็มีภาระมาก ทางสำนักทนายความนี้ก็โทรมาบอกว่า พ่อยังมีโอดีกับธนาคารอยู่ แสดงว่ายังทำธุรกิจอยู่น่าจะมีเงินจ่าย ดิฉันจึงแจ้งไปว่า โอดีที่มีอยู่นั้นมีแต่ยอดหนี้ พ่อป่วยไม่ได้ทำงานมา 3-4 ปีแล้ว และที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ก็คือยอดที่น้องชายช่วยชำระหนี้แทนพ่อ (น้องชายมีชื่อเป็นหุ้นส่วนในหจก) หจก.นี้ไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ไปแจ้งปิดเท่านั้น และทางสำนักทนายความได้ขู่ว่าถ้าไม่ชำระหนี้บัตรเงินสดก็จะฟ้องยึดทรัพย์
ดิฉันจึงอยากทราบว่า โอดีที่มีอยู่กับธนาคารโดยมีบ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันนั้น ทางธนาคารสามารถยึดเพื่อมาเคลียร์หนี้บัตรเงินสดได้หรือไม่คะ และน้องชายที่มีชื่อเป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดชอบหนี้ของพ่อหรือไม่
เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิยึดทรัพย์ของลูกหนี้ที่มีอยู่เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ของเขาได้เสมอ แต่เมื่อยึดแล้วจะเอามาชำระได้เพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับว่าทรัพย์นั้นติดภาระอยู่กับคนอื่นมากน้อยเท่าไร ส่วนน้องชายนั้น จะต้องรับผิดก็ต่อเมื่อหนี้นั้นเป็นหนี้ของห้างหุ้นส่วน