ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    041706 อยากทราบวิธีแก้คำอุทรณ์คดีลักทรัพย์ทุกข์ใจ30 สิงหาคม 2553

    คำถาม
    อยากทราบวิธีแก้คำอุทรณ์คดีลักทรัพย์

    ขอรบกวนเรียนปรึกษาอาจารย์มีชัย เกี่ยวกับการยืนอุทธรณ์คดีลักทรัพย์ครับ โดยขอยกตัวอย่างบันทึกคำให้การของจำเลยในศาลชั้นต้นเพื่อหาแง่มุมในการเตรียมอุทธรณ์ว่า ควรจะอุทธรณ์ในแง่มุมไหนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวจำเลยมากที่สุดนะครับ ในศาลชั้นต้น(คำให้การจำเลย) (๑๑ก.)   จำเลยได้ทราบคำฟ้องตลอดแล้ว ขอให้การตามที่จะกล่าวต่อไปนี้

    ข้อ๑.คดีนี้จำเลยเข้าใจและรับทราบฟ้องของโจทก์อย่างดีแล้ว  จำเลยขอให้การ รับสภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจำเลยขอชี้แจ้งแถลงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลดังต่อไปนี้

    ข้อ๒.เหตุแห่งการกระทำความผิดในคดีนี้เนื่องจากวันที่๒๘ กันยายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๙.๐๐น. นายเวียร์ หรือจริตรัญ มาศวะสุ (เป็นเยาวชนและถูกดำเนินคดีต่างหากแล้ว) เพื่อนในหมู่บ้านเดียวกับจำเลย ได้มาชักชวนจำเลยเดินทางไปหาเพื่อนที่หมู่บ้านดาสีนา โดยนายเวียร์ได้มาขอร้องให้จำเลยไปเป็นเพื่อน จำเลยจึงนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับนายเวียร์ นายเวียร์ได้ขับขีรถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบ้านวังน้ำเย็น และเมื่อผ่านบ้านที่เกิดเหตุประมาณ๑๐๐เมตร ปรากฎน้ำมันหมดจึงพากันจูงรถจักรยานยนต์เดินผ่านมายังบ้านที่เกิดเหตุปรากฎว่าบ้านผู้เสียหายนั้นไม่มีคนอยู่ จำเลยจึงปรึกษากับนายเวียร์ว่าให้นายเวียร์เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย ว่าจะมีน้ำมันเหลืออยู่ในบ้านผู้เสียหายหรือไม่? เนื่องจากเห็นมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ และให้นายเวียร์ลักเอาน้ำมันจากรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาใส่มาใส่รถจักรยานยนต์ของตน  ส่วนจำเลยนั้นจูงรถจักรยานยนต์เดินรอไปเรือยๆเผื่อจะมีคนรู้จักผ่านมาจะได้ขอความช่วยเหลือ ระหว่างที่จูงรถจักรยานยนต์มาได้ประมาณ๖๐เมตร นายเวียร์ได้วิ่งหน้าตื่นมาหาจำเลย โดยบอกกับจำเลยว่าเจ้าของบ้านมาเห็นและจะทำร้ายตนให้จำเลยดึงโช้ครถจักรยานยนต์แล้วติดเครื่องรีบพานายเวียร์ไปให้พ้นจากบริเวณดังกล่าว ด้วยความตกใจจำเลยจึงรีบทำตามที่นายเวียร์บอก พอติดเครื่องรถจักยานยนต์ได้จำเลยก็รีบ ขับรถจักรยานยนต์ออกไปว่ิงได้ประมาณ๑๐๐เมตร รถจักรยานยนต์ก็ดับเนื่องจากน้ำมันที่เหลือค้างอยู่ในรถจักรยานยนต์ได้หมดเกลี้ยงแล้ว และพอรถดับเครื่องลง นายเวียร์ก็ได้รีบวิงหลบหนีไป โดยบอกแก่จำเลยว่า ผู้เสียหายเห็นหน้านายเวียร์แล้ว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงขอหลบหนีไปก่อนโดยได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป ส่วนจำเลยนั้นพอเห็นว่าผู้เสียหายไม่น่าจะโกรธเคืองตนเองและไม่น่าจะทำร้ายจำเลยเพราะจำเลยไม่ได้เข้าไปเอาอะไรของผู้เสียหายมาและไม่น่าจะ ทำร้ายจำเลยเพราะจำเลยไม่ได้เข้าไปเอาอะไรของผู้เสียหายและก็ไม่เห็นว่านายเวียร์ได้ทรัพย์สินใดๆของผู้เสียหายติดตัวมาด้วย  จำเลยจึงได้จูงรถจักรยานยนต์เดินต่อไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่จูงรถจักรยานยนต์เดินมาตามถนนนี้เอง ผู้เสียหายซึ่งได้ติดตามมาจึงเข้าามาควบคุมตัวจำเลยและกล่าวหาว่าจำเลยได้ร่วมกับนายเวียร์ลักเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปและได้นำตัวจำเลยนำส่งพนักงานตำรวจในเวลาต่อมา

     ข้อ๓. ในชั้นสอบสวนนั้นจำเลยได้ให้การปฎิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดดังที่ถูกกล่าวหาเนื่องจากจำเลยได้ตกลงกับนายเวียร์ว้าให้เข้าไปลักเอาเฉพาะน้ำมันรถเท่านั้นไม้่ได้ให้เข้าไปลักเอาทรัพยสินอื่น ของผู้เสียหายด้วย แต่เมื่อจำเลยได้ปรึกษาผู้รู้กฎหมายแล้ว ทุุกท่านต่างก็ให้คำแนะนำว่าการกระทำของจำเลยกับนายเวียร์นั้นถือว่าเป็นตัวการร่วมกันในความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์มิใช่ไม่มีความผิด ดังที่จำเลยเข้าใจ และเมื่อเข้าใจดังนี้แล้ว จำเลยจึงได้สำนึกในการกระทำความผิดของตนและได้พยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้นอย่างสุดความสามารถของจำเลย โดยจำเลยได้ขมาผู้เสียหายและขอชดใช้ค่าเสียหายให้แก้ผู้เสียหายซึ่งผู้เสียหายเองก็ได้ให้อภัยต่อการกระทำของจำเลยและได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลยจนเป็นที่พอใจแล้ว

    ข้อ๔. จำเลยอายุ๑๙ปียังมีอนาคตที่สดใส โดยขณะนี้จำเลยเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง(ขอไม่เอ่ยชื่อ) คณะนิติศาสตร์ สาขานิติศาสตร์ รายละเอียดปรากฎตามหนังสือรับรองเอกสารท้ายคำให้การ

         จำเลยได้รู้สำนึกในการกระทำความผิดของตนเองแล้ว จำเลยมีความประพฤติที่เรียบร้อยมาโดยตลอดและเพิ่งกระทำความผิดคดีนี้เปนคดีแรกในชีวติของจำเลย จำเลยไม่เคยได้รับโทษใดๆมาก่อน อีกทั้งยังมีภาระหน้าที่ต้องดูแลบิดามารดาที่แก่ชราและยังต้องศึกษาเล่าเรียนเพื่ออนาคตของจำเลยต่อไปในภาคหน้า อีกทั้งความประพฤติของจำเลยนั้น จำเลยเห็นว่ายังสามารถเยียวยาแก้ไขได้  เพราะจำเลยไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิดเป็นนิสัย การกระทำเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ขาดสติและความยับยั้งชังใจ จึงได้กระทำผิดไปจนยากที่กลับไปแก้ไขได้

         อาศัยเหตุและผลดังที่จำเลยได้กราบเรียนมาข้างต้น ขอศาลได้โปรดเมตตาลงโทษจำเลยในสถานเบาโดยให้โอกาสจำเลยสักครั้งรอการลงโทษให้แก่จำเลยด้วย จักเป็นพระคุณแก่จำเลยและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง ขอศาลได้โปรดเมตตาแก่จำเลยด้วย  

    จากบันทึกคำให้การของจำเลยข้างต้นศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลย ๒ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวรอยื่นอุทธรณ์ จึงขอเรียนปรึกษาท่านอาจารย์มีชัยในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของสังคมและเป็นผู้มีความเชียวชาญกฎหมายทั้งกฎหมายมหาชนและกฎหมายเอกชน ขอให้ท่านได้แนะนำและชี้แจงด้วยว่า ในขั้นของศาลอุทธรณ์พอจะมีแง่มุมไหนที่พอจะเป็นเหตุบรรเทาโทษให้ศาลรอลงอาญาให้จำเลยได้มีโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนได้บ้างเพราะตอนนี้จำเลย กำลังศึกษาชั้นปี๑ ตามบันทึกคำให้การของจำเลย ขอท่านอาจารย์ได้โปรดชีแนะแนวทางด้วยครับ  ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มีชัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยคับ

    คำตอบ
    ต้องขอโทษด้วย เพราะไม่อยู่ในวิสัยที่จะช่วยเขียนอุทธรณ์ให้ได้ ไปปรึกษาทนายความน่าจะดีกว่า
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    30 สิงหาคม 2553