อยากทราบวิธีแก้คำอุทรณ์คดีลักทรัพย์
ขอรบกวนเรียนปรึกษาอาจารย์มีชัย เกี่ยวกับการยืนอุทธรณ์คดีลักทรัพย์ครับ โดยขอยกตัวอย่างบันทึกคำให้การของจำเลยในศาลชั้นต้นเพื่อหาแง่มุมในการเตรียมอุทธรณ์ว่า ควรจะอุทธรณ์ในแง่มุมไหนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวจำเลยมากที่สุดนะครับ ในศาลชั้นต้น(คำให้การจำเลย) (๑๑ก.) จำเลยได้ทราบคำฟ้องตลอดแล้ว ขอให้การตามที่จะกล่าวต่อไปนี้
ข้อ๑.คดีนี้จำเลยเข้าใจและรับทราบฟ้องของโจทก์อย่างดีแล้ว จำเลยขอให้การ รับสภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจำเลยขอชี้แจ้งแถลงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลดังต่อไปนี้
ข้อ๒.เหตุแห่งการกระทำความผิดในคดีนี้เนื่องจากวันที่๒๘ กันยายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๙.๐๐น. นายเวียร์ หรือจริตรัญ มาศวะสุ (เป็นเยาวชนและถูกดำเนินคดีต่างหากแล้ว) เพื่อนในหมู่บ้านเดียวกับจำเลย ได้มาชักชวนจำเลยเดินทางไปหาเพื่อนที่หมู่บ้านดาสีนา โดยนายเวียร์ได้มาขอร้องให้จำเลยไปเป็นเพื่อน จำเลยจึงนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับนายเวียร์ นายเวียร์ได้ขับขีรถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบ้านวังน้ำเย็น และเมื่อผ่านบ้านที่เกิดเหตุประมาณ๑๐๐เมตร ปรากฎน้ำมันหมดจึงพากันจูงรถจักรยานยนต์เดินผ่านมายังบ้านที่เกิดเหตุปรากฎว่าบ้านผู้เสียหายนั้นไม่มีคนอยู่ จำเลยจึงปรึกษากับนายเวียร์ว่าให้นายเวียร์เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย ว่าจะมีน้ำมันเหลืออยู่ในบ้านผู้เสียหายหรือไม่? เนื่องจากเห็นมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ และให้นายเวียร์ลักเอาน้ำมันจากรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาใส่มาใส่รถจักรยานยนต์ของตน ส่วนจำเลยนั้นจูงรถจักรยานยนต์เดินรอไปเรือยๆเผื่อจะมีคนรู้จักผ่านมาจะได้ขอความช่วยเหลือ ระหว่างที่จูงรถจักรยานยนต์มาได้ประมาณ๖๐เมตร นายเวียร์ได้วิ่งหน้าตื่นมาหาจำเลย โดยบอกกับจำเลยว่าเจ้าของบ้านมาเห็นและจะทำร้ายตนให้จำเลยดึงโช้ครถจักรยานยนต์แล้วติดเครื่องรีบพานายเวียร์ไปให้พ้นจากบริเวณดังกล่าว ด้วยความตกใจจำเลยจึงรีบทำตามที่นายเวียร์บอก พอติดเครื่องรถจักยานยนต์ได้จำเลยก็รีบ ขับรถจักรยานยนต์ออกไปว่ิงได้ประมาณ๑๐๐เมตร รถจักรยานยนต์ก็ดับเนื่องจากน้ำมันที่เหลือค้างอยู่ในรถจักรยานยนต์ได้หมดเกลี้ยงแล้ว และพอรถดับเครื่องลง นายเวียร์ก็ได้รีบวิงหลบหนีไป โดยบอกแก่จำเลยว่า ผู้เสียหายเห็นหน้านายเวียร์แล้ว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงขอหลบหนีไปก่อนโดยได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าไป ส่วนจำเลยนั้นพอเห็นว่าผู้เสียหายไม่น่าจะโกรธเคืองตนเองและไม่น่าจะทำร้ายจำเลยเพราะจำเลยไม่ได้เข้าไปเอาอะไรของผู้เสียหายมาและไม่น่าจะ ทำร้ายจำเลยเพราะจำเลยไม่ได้เข้าไปเอาอะไรของผู้เสียหายและก็ไม่เห็นว่านายเวียร์ได้ทรัพย์สินใดๆของผู้เสียหายติดตัวมาด้วย จำเลยจึงได้จูงรถจักรยานยนต์เดินต่อไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่จูงรถจักรยานยนต์เดินมาตามถนนนี้เอง ผู้เสียหายซึ่งได้ติดตามมาจึงเข้าามาควบคุมตัวจำเลยและกล่าวหาว่าจำเลยได้ร่วมกับนายเวียร์ลักเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปและได้นำตัวจำเลยนำส่งพนักงานตำรวจในเวลาต่อมา
ข้อ๓. ในชั้นสอบสวนนั้นจำเลยได้ให้การปฎิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดดังที่ถูกกล่าวหาเนื่องจากจำเลยได้ตกลงกับนายเวียร์ว้าให้เข้าไปลักเอาเฉพาะน้ำมันรถเท่านั้นไม้่ได้ให้เข้าไปลักเอาทรัพยสินอื่น ของผู้เสียหายด้วย แต่เมื่อจำเลยได้ปรึกษาผู้รู้กฎหมายแล้ว ทุุกท่านต่างก็ให้คำแนะนำว่าการกระทำของจำเลยกับนายเวียร์นั้นถือว่าเป็นตัวการร่วมกันในความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์มิใช่ไม่มีความผิด ดังที่จำเลยเข้าใจ และเมื่อเข้าใจดังนี้แล้ว จำเลยจึงได้สำนึกในการกระทำความผิดของตนและได้พยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้นอย่างสุดความสามารถของจำเลย โดยจำเลยได้ขมาผู้เสียหายและขอชดใช้ค่าเสียหายให้แก้ผู้เสียหายซึ่งผู้เสียหายเองก็ได้ให้อภัยต่อการกระทำของจำเลยและได้รับชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลยจนเป็นที่พอใจแล้ว
ข้อ๔. จำเลยอายุ๑๙ปียังมีอนาคตที่สดใส โดยขณะนี้จำเลยเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง(ขอไม่เอ่ยชื่อ) คณะนิติศาสตร์ สาขานิติศาสตร์ รายละเอียดปรากฎตามหนังสือรับรองเอกสารท้ายคำให้การ
จำเลยได้รู้สำนึกในการกระทำความผิดของตนเองแล้ว จำเลยมีความประพฤติที่เรียบร้อยมาโดยตลอดและเพิ่งกระทำความผิดคดีนี้เปนคดีแรกในชีวติของจำเลย จำเลยไม่เคยได้รับโทษใดๆมาก่อน อีกทั้งยังมีภาระหน้าที่ต้องดูแลบิดามารดาที่แก่ชราและยังต้องศึกษาเล่าเรียนเพื่ออนาคตของจำเลยต่อไปในภาคหน้า อีกทั้งความประพฤติของจำเลยนั้น จำเลยเห็นว่ายังสามารถเยียวยาแก้ไขได้ เพราะจำเลยไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิดเป็นนิสัย การกระทำเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ขาดสติและความยับยั้งชังใจ จึงได้กระทำผิดไปจนยากที่กลับไปแก้ไขได้
อาศัยเหตุและผลดังที่จำเลยได้กราบเรียนมาข้างต้น ขอศาลได้โปรดเมตตาลงโทษจำเลยในสถานเบาโดยให้โอกาสจำเลยสักครั้งรอการลงโทษให้แก่จำเลยด้วย จักเป็นพระคุณแก่จำเลยและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง ขอศาลได้โปรดเมตตาแก่จำเลยด้วย
จากบันทึกคำให้การของจำเลยข้างต้นศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลย ๒ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวรอยื่นอุทธรณ์ จึงขอเรียนปรึกษาท่านอาจารย์มีชัยในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของสังคมและเป็นผู้มีความเชียวชาญกฎหมายทั้งกฎหมายมหาชนและกฎหมายเอกชน ขอให้ท่านได้แนะนำและชี้แจงด้วยว่า ในขั้นของศาลอุทธรณ์พอจะมีแง่มุมไหนที่พอจะเป็นเหตุบรรเทาโทษให้ศาลรอลงอาญาให้จำเลยได้มีโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนได้บ้างเพราะตอนนี้จำเลย กำลังศึกษาชั้นปี๑ ตามบันทึกคำให้การของจำเลย ขอท่านอาจารย์ได้โปรดชีแนะแนวทางด้วยครับ ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มีชัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยคับ |