เรียน อ.มีชัย
เรื่องก็คือมีคนมาทำสัญญาขายฝากอาคารพาณิชย์ไว้ เป็นจำนวน 4 ห้อง แต่ว่าพวกเขาแอบฉ้อโกง โดยตอนที่ไปทำนิติกรรมที่กรมที่ดิน เขาเขียนระบุว่าขายฝากเฉพาะส่วน โดยเขาอ้างว่าเพราะลูกเขายังไม่บรรลุนิติภาวะ(ชื่อในโฉนด มีชื่อลูกของเขาด้วย) และเขาบอกว่าเมื่อลูกเขาบรรลุนิติภาวะ เขาจะดำเนินการให้เป็นหมดทั้งอาคาร แต่ขณะนั้นเรามีทำสัญญาขายฝากกันอีกฉบับว่าเป็นทั้งหมดของตัวอาคาร แล้วต่อมาเมื่อถึงกำหนดเขาไม่มาไถ่ถอนคืน ดังนั้นตึกแถวจึงต้องเป็นของเรา แต่ก็มีเรื่องฟ้องร้องและฟ้องขับไล่กันเพราะเขาอ้างว่าเป็นเฉพาะส่วน แต่โดยหลักฐานทั้งหมดที่เรามีทำให้ฝ่ายเราชนะ และได้สิทธิ์เป็นเจ้าของตึกแถวแล้ว แต่ปัญหาก็คือยังไม่ได้จำหน่ายชื่อพวกเขาและบริวารออกจากทะเบียนบ้าน มีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่พวกเขาย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่เมื่อปีที่แล้วก็ได้กลับมาอาศัยอยู่บริเวณตึกแถวนั้น และพวกเขาก็ยังใช้ประโยชน์จากทะเบียนบ้าน คือ ขอเบอร์โทรศัพท์ ขอประปา ขอไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งทำให้มีบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ มาที่ตึกแถวของเรา ซึ่งขณะนี้เราให้ผู้อื่นเช่าอยู่ ยังความรำคาญให้แก่ผู้เช่ามากค่ะ และตอนนี้ทราบข่าวมาว่าเขามีว่าจ้างแรงงานต่างด้าว ซึ่งทางเราก็ไม่รู้ว่าจะถูกกฎหมายหรือเปล่า และเกรงเขาจะใช้ทะเบียนบ้านของเราอีก หรือนำทะเบียนบ้านไปใช้ทำในเรื่องที่ผิดกฏหมาย เพราะเขาเคยติดคุกคดีฉ้อโกงมาด้วยค่ะ และที่สำคัญ ดิฉันเกรงว่าเขาจะใช้สิทธิ์ในการครอบครองปรปักษ์ทะเบียนบ้าน เกิน 10 ปี ซึ่งตั้งแต่มีคดีฟ้องร้องกันก็ประมาณ 8 ปีแล้ว
จึงอยากเรียนถามว่า ถ้าเป็นกรณีเช่นนี้เราสามารถไปที่เขตแจ้งจำหน่ายเขาและบริวารของเขาที่ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดิมออก โดยที่เราไม่มีทะเบียนบ้านตัวจริงได้หรือไม่คะ เพราะทะเบียนบ้านอยู่กับเขา และยังไงทางนั้นก็ไม่ยอมให้เรามาอยู่แล้ว เท่าที่ทราบการจะจำหน่ายชื่อออกต้องให้เจ้าบ้านเป็นผู้แจ้งขอจำหน่าย หรือเจ้าตัวไปแจ้ง หรือเป็นการแจ้งจำหน่ายเนื่องจากมรณะ หรือย้ายไปต่างประเทศใช่ไหมคะ
จึงขอรบกวนอาจารย์ช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะว่า ถ้าเป็นกรณีนี้ควรดำเนินการอย่างไร และมีขั้นตอนยังไงบ้างคะ ขอบพระคุณค่ะ
ขอแสดงความนับถือ
ผู้สงสัยมากมาย