ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    041425  ไม่ชอบหน้า จริงหรือ ?ppolitic10 สิงหาคม 2553

    คำถาม
    ไม่ชอบหน้า จริงหรือ ?

       เช้าวันที่ 10 สิงหาคม คุณหญิงจารุวรรณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ "เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์"  โดยระบุว่า   "กรณีกฤษฎีกาซึ่งแปลกมากเลย ว่า เราได้ข้อยุติแล้ว ท่านไม่ต้องวินิจฉัยแล้ว แต่ทำไมท่านจะต้องวินิจฉัยให้ได้ก็ไม่รู้ เขาบอกว่าจะประชุมวันนี้ แต่มีคนมาเล่าให้ฟังว่า มีผลออกมาแล้ว โดยคนใน สตง.ก็เอามาดูกันเวียนกันแล้ว แต่ขอคัดค้านคณะกรรมการกฤษฎีกาของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธาน"
        "ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ดิฉันเคารพนับถือ แต่บังเอิญด้วยอะไรไม่ทราบ ท่านไม่ค่อยชอบดิฉันเหลือเกิน ไม่ทราบ อาจไม่สวย อาจไม่ค่อยอ่อนน้อม ก็บอกตรงๆ ว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เราเป็นเด็กที่ไม่ค่อยรู้กฎหมาย แต่เราเก่งบัญชี เราต้องนับถือท่านไว้ ก็ได้ทำเรื่องขอถอนข้อหารือ เรียกว่าไม่ติดใจแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม แต่เข้าใจว่าคณะของอาจารย์มีชัยก็เดินหน้าต่อ"
        เรียนถาม อาจารย์มีชัย ในฐานะถูกพาดพิงว่า ความเข้าใจของคุณหญิงจารุวรรณ ถูกต้องหรือคลาดเคลื่อนอย่างไรหรือไม่  โดยเฉพาะการขอถอนเรื่องออก แต่ก็ยังเดินหน้าต่อ และประเด็นไม่ชอบหน้า จริงหรือ ?
    คำตอบ

    ท่านเห็นจะเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องความรู้สึกของผมที่มีต่อท่าน เพราะตั้งแต่ได้รู้จักท่านมา แม้จะไม่ได้สนิทเป็นการส่วนตัว แต่ก็มีแต่ความนับถือในความรู้ความสามารถ และความกล้าที่จะเดินหน้าในสิ่งที่ท่านเห็นว่าถูก ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด เวลาท่านมีปัญหาอุปสรรคใด ๆ ก็ได้แต่เอาใจช่วยอยู่เสมอ  สำหรับเรื่องความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น ในฐานะที่เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ก็พอจะชี้แจงได้ดังนี้

         1. ที่ว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ นั้น เห็นจะเข้าใจผิด  เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นองค์กรไม่ใช่เป็นของใคร  นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นเพียงหนึ่งในคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีถึง ๑๒๐ ท่าน  เวลาเขาทำงานเขาก็ทำกันเป็นคณะ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง

         2. ในเวลาที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะให้ความเห็นทางกฎหมายแก่หน่วยงานของรัฐนั้น จะต้องเป็นไปตามคำขอของหน่วยงานนั้น  ๆ  บางครั้งเมื่อหน่วยงานนั้นขอมาแล้ว เกิดเปลี่ยนใจ ขอถอนเรื่อง คณะกรรมการกฤษฎีกาก็จะส่งเรื่องคืน แต่คนที่ขอถอนเรื่องนั้นต้องเป็นคนที่มีอำนาจในการขอถอนเรื่อง ไม่ใช่หน่วยงานมีหนังสือมาถามแล้ว ใคร ๆ ก็ขอถอนเรื่องได้

         3. สำหรับเรื่องที่หารือมายังคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น เดิมที เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ (ก่อนที่คุณหญิงท่านจะมีอายุครบ ๖๕ )คุณหญิงท่านมีหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรีขอให้นายกรัฐมนตรีนำเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีมติให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการพ้นจากตำแหน่งของท่าน

            ต่อมาวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ (หลังจากคุณหญิงมีอายุ

    ครบ ๖๕ ปีแล้ว) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ในฐานะองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีหนังสือหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอให้ตีความปัญหาเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของคุณหญิงจารุวรรณ) ซึ่งเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) พิจารณาแล้ว ก็สอบถามว่าประสงค์จะให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความให้จริงหรือ เพราะถ้าคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยตรงตามที่ สตง.คิดไว้ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ตรงกัน การทำงานต่อไปของ สตง.ก็จะลำบากใจ เพราะแม้ว่าความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะไม่เป็นที่สุด แต่เมื่อรู้ความเห็นนั้นแล้ว การจะทำอะไรต่อไปที่ไม่ตรงกับความเห็นนั้น ก็จะเป็นปัญหาได้ ขอให้กลับไปคิดดูให้ดี หากยังอยากให้ตีความต่อไปก็ยืนยันมา ถ้าเปลี่ยนใจก็ให้ถอนเรื่องคืนไป  ซึ่งต่อมาวันที่ ๒๒ กรกฎาคม สตง.ก็มีหนังสือลงนามโดยนายพิศิษฐ์ รองผู้ว่าการฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าการฯ ยืนยันให้ตีความต่อไป ในเวลาต่อมาคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้รับหนังสือลงวันที่ ๓๐ กรกฎาคม (หลังจากคุณหญิงท่านอายุครบ ๖๕ ปีแล้ว) ลงนามโดยคุณหญิงจารุวรรณ โดยมีตำแหน่งต่อท้ายว่าปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการฯ ขอถอนเรื่องหารือดังกล่าวคืน

           ปัญหาจึงมีว่าจะถือหนังสือของใครเป็นหลัก ถ้าถือหนังสือของคุณหญิงท่านเป็นหลักก็เท่ากับยอมรับว่าท่านยังอยู่ในตำแหน่ง  คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงตกลงกันว่า ถ้าอย่างนั้นก็พิจารณากันเสียก่อนว่า คุณหญิงท่านยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อไปหรือไม่  ถ้าเห็นว่าท่านยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อไป ก็ต้องถือเอาหนังสือของท่านเป็นสำคัญ คณะกรรมการกฤษฎีกาก็จะได้ส่งเรื่องคืนไปโดยไม่แจ้งคำวินิจฉัย  แต่ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าท่านพ้นไปแล้ว หนังสือของท่านก็ไม่อาจผูกพันสำนักงาน สตง.เพราะท่านกลายเป็นคนนอกไปแล้ว ในกรณีนั้นก็ต้องถือเอาหนังสือของนายพิสิษฐ์ ที่ยืนยันให้วินิจฉัยต่อไป เป็นหลัก  ซึ่งผลของการพิจารณาและตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาก็เป็นดังที่รู้ ๆ กันทั่วไปแล้ว  โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือเรียนให้คุณหญิงท่านทราบเหตุผลโดยตรงด้วยแล้ว

           4. อนึ่ง ตามข่าวที่ปรากฏในสื่อมวลชน รายงานว่าคุณไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ได้ตั้งข้อสังเกตว่า  "คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) ซึ่งมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ได้ให้ความเห็นว่าจะต้องมีการสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่า สตง.ภายใน ๙๐ วันตามประกาศ คปค.ฉบับที่ ๒๙ นั้น ทำไมนายมีชัยซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) ที่ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาในสมัยนั้นถึงไม่ดำเนินการสรรหา"  ด้วยความเคารพที่ท่านเป็น "ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายประธานวุฒิสภา" ผมก็ไม่อาจต่อล้อต่อเถียงอะไรกับท่านได้  ได้แต่จะเรียนให้ทราบว่า ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ ๒๙ นั้น ได้กำหนดให้คุณหญิงท่านอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ และเมื่อครบแล้วก็ให้ดำเนินการสรรหาเสียภายใน ๙๐ วันนับแต่วันที่ท่านพ้นจากตำแหน่ง ดังนั้นก่อนวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ จึงยังไม่อาจสรรหาได้ เพราะคุณหญิงท่านยังไม่พ้นจากตำแหน่ง  แต่ต่อมาวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๐ (ก่อน ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐) ได้มีประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช ๒๕๕๐  ซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๑ ว่า "ให้ดำเนินการสรรหาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินภายใน ๑๒๐ วันนับแต่วันที่มีการแต่งตั้ง ประธานสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นทั่วไปครั้งแรกฯ"   บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญจึงย่อมใหญ่กว่า ประกาศ คปค. กว่าจะมีประธานสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำฝ่ายค้าน ผมก็พ้นจากตำแหน่งไปนานแล้ว เป็นบุญของผมที่ได้อ่านทั้ง ประกาศ คปค.ฉบับที่ ๒๙ และรัฐธรรมนูญประกอบกันด้วย จึงรอดตัวมาได้  ถ้าอ่านแต่เพียง ประกาศ คปค.ฉบับที่ ๒๙ ฉบับเดียว ท่าน สว.ท่านคงเล่นงานผมถึงตาย

           ผมตอบคำถามนี้ด้วยความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจจะกระทบคุณหญิงท่านได้  ครั้นจะไม่ตอบก็จะทำให้เกิดการใจผิด ใครจะเข้าใจผิดอย่างไรก็ไม่สำคัญ ผมกลัวแต่คุณหญิงท่านจะเข้าใจผมผิด เพราะผมยังนับถือและห่วงใยท่านอยู่

       


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    10 สิงหาคม 2553