เรียน...อาจารย์มีชัยค่ะ
เมื่อประมาณ 25 ปีก่อน คุณตาซื้อบ้านไว้ โดยคุณตาเป็นผู้จ่ายเงินค่าบ้าน และได้ให้บ้านหลังนั้นกับพ่อและแม่ของหนู โดยใช้ชื่อ พ่อและแม่ของหนูเป็นเจ้าของบ้าน โดยโฉนดที่ดินคุณตาเป็นผู้เก็บไว้ และบ้านหลังนั้นคุณตาและญาติๆ ก็ได้ใช้ค้าขายและอยู่อาศัยมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่พ่อและแม่หนูก็ไม่ได้ไปรบกวนแต่อย่างใด ต่อมาคุณตาต้องการเอาบ้านคืนเพื่อจะโอนไปให้หลานชาย โดยพูดกับพ่อและแม่ของหนูว่า แค่ขอใช้ชื่อเท่านั้น ไม่ได้ให้แต่อย่างใด และให้พ่อกับแม่หนูไปเซ็นต์ชื่อโอนบ้านคืนให้ แต่พ่อกับแม่หนูไม่ยอม คุณตาจึงให้ทนายส่งจดหมายให้ติดต่อกลับไปเพื่อโอนบ้านคืนภายใน 7 วัน ไม่เช่นนั้นคุณตาก็จะไปฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเอาบ้านคืน
จึงขอเรียนถามดังนี้
1.การครอบครองปฏิปักษ์หมายถึงการครอบครองทรัพย์สินที่เป็นเฉพาะที่ดินเท่านั้นใช่หรือเปล่าคะ แล้วในกรณีนี้ ที่คุณตาได้ใช้ประกอบอาชีพค้าขายมานานแล้ว โดยที่พ่อและแม่หนูก็ไม่ได้ไปรบกวนอะไร ถือว่าคุณตาครอบครองปฏิปักษ์หรือไม่คะ
2.ถ้าคุณตาไปฟ้องร้องต่อศาล มีโอกาสที่คุณตาจะชนะคดีหรือไม่คะ เพราะพ่อกับแม่หนูไม่ได้เนรคุณกับคุณตา บ้านหลังนั้นก็ยังให้คุณตาและญาติๆ อยู่กันมาจนถึงปัจจุบัน
3.ถ้ามีการฟ้องร้องเกิดขึ้น มีสาเหตุอะไรบ้างหรือเปล่าคะ ที่จะทำให้คุณตาชนะคดี
4.ก่อนที่จะมีการขึ้นศาล จะต้องมีการไกล่เกลี่ยกันก่อนใช่หรือเปล่าคะ
5.ในโฉนดที่ดิน พ่อกับแม่หนูบอกว่า คุณตาได้เขียนข้อความภาษาจีนลงไป แต่ไม่ทราบว่าเขียนอะไร อยากทราบว่าจะมีผลต่อการฟ้องร้องหรือเปล่าคะ และการเขียนข้อความลงบนโฉนดที่ดินต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงานจะถือว่ามีผลตามกฎหมายหรือไม่คะ
ขอขอบพระคุณอย่างสูง
1. การครอบครองปรปักษ์นั้นเกิดได้กับที่ดิน หรือบ้าน หรือแม้แต่แก้วแหวนเงินทอง ก็ครอบครองปรปักษ์ได้ ส่วนการที่ตาครอบครองอยู่นั้น จะถือเป็นการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจตนาของตา และการแสดงออกของตา ว่าเป็นบ้านของตา หรือเปล่า
2. ถ้าไม่ได้เนรคุณ ก็เอาคืนไม่ได้ เว้นแต่เป็นการอ้างเรื่องการครอบครองปรปักษ์ซึ่งไม่ใช่เรื่องการเอาคืน แต่เป็นเรื่องการแย่งกรรมสิทธิ์
3. สาเหตุที่ตาจะชนะคดีและคุณแพ้คดีนั้นมีร้อยแปด เช่น ถ้าเขาฟ้องคดีแล้ว คุณไม่หาทนายดี ๆ ไปสู้คดี คุณก็อาจแพ้ได้
4. เมื่อฟ้องศาลแล้ว ก่อนที่ศาลจะพิจารณา ศาลมักจะไกล่เกลี่ยก่อน
5. ถ้ายังไม่รู้ว่าเขียนว่าอะไร แล้วจะตอบได้อย่างไรว่ามีผลต่อคดีหรือไม่