ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    040973 การปลอมแปลงเอกสารเพชลดา8 กรกฎาคม 2553

    คำถาม
    การปลอมแปลงเอกสาร

    กราบเรียน คุณมีชัย ที่เคารพ

    ด้วยสามีข้าพเจ้า ได้ดำเนินการ นำเอกสารของเข้าพเจ้า (บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน) ไป เพื่อประกอบการค้ำประกันเงินกู้ให้กับเพื่อนในหน่วยงาน ซึ่งในเอกสารดังกล่าวข้าพเจ้าไม่ได้ลงลายมือชื่อด้วยตนเอง สามีเป็นคนลงลายมือชื่อแทน ซึ่งในครั้งแรกได้มีการบอกกล่าว ข้าพเจ้าก็รับปากแต่ไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริงโดยละเอียด แต่ก็มีการชะลอ โดยแจ้งว่าไม่สามารถกู้ได้ ภายหลังระยะเวลาเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนของสามีข้าพเจ้าได้นำเอกสารชุดดังกล่าว ยื่นเพื่อขอกู้เงินอีกครั้ง ผลปรากฏว่าสามารถกู้เงินได้ และนัดเซ็นสัญญา แต่สามีของข้าพเจ้ามิได้นำความนี้บอกข้าพเจ้าแต่ประการใด ข้าพเจ้ามาทราบทีหลังว่า เขาทั้งคู่ ได้ดำเนินการเซ็นสัญญากู้เงิน และสามารถกู้เงินประสบผลสำเร็จได้แล้ว ข้าพเจ้า ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะทราบมาแล้วว่าการนำเอกสารไปใช้ในครั้งแรกนั้น ไม่ผ่านจึงเข้าใจว่าเลิกแล้วต่อกันและคืนเอกสารให้แล้ว แต่ภายหลังมาทราบว่า นำเอกสารชุดดังกล่าวมาทำธุรกรรมกู้เงินเช่นนี้

    ข้าพเจ้าขอถามว่า

    1. การกระทำเช่นนี้ ใครผิด และถ้าข้าพเจ้าจะเอาเรื่องในฐานะที่ข้าพเจ้ามิได้ลงลามมือชื่อในเอกสารดังกล่าว จะได้หรือไม่ และอยากบอกเลิกสัญญากู้เงินดังกล่าวได้หรือไม่ 

    2. ถ้าฟ้อง หรือไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เอาเอกสารของข้าพเจ้าไปใช้นั้น กระทำได้หรือไม่ ถ้าฟ้องก็ต้องฟ้องสามีตนเองด้วยใช่หรือไม่ แล้วคนที่นำเอกสารไปใช้ สามารถฟ้องได้ด้วยหรือไม่

    3. การแจ้งความดำเนินคดีนั้น มีผลดีผลเสียอย่างไร เพราะตัวข้าพเจ้าและสามีไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันแต่ประการใด แต่พอมาทราบทีหลัง ทำให้เข้าใจได้ว่านำเอกสารไปใช้อีกครั้งหนึ่งโดยไม่ได้แจ้งเจ้าตัวเช่นนี้ สามารถเอาผิดกับเพื่อนของสามีของข้าพเจ้าได้หรือไม่ หรือว่า มันมีผลเสียมากกว่าผลดี หรือไม่สมควรทำอย่างไร กรุณาอธิบายให้คำตอบกับข้าพเจ้าด้วยจักขอบพระคุณยิ่ง

    4. อยากทราบโทษว่ามีอะไรบ้าง ต้องจำคุก ปรับ เท่าไหร่ หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าเป็นข้าราชการ คุ้มหรือไม่กับการดำเนินคดีเช่นนี้

    เพราะข้าพเจ้ามีความไม่สบายใจในการค้ำประกันบุคคลรายดังกล่าวนี้

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้าที่ตอบคำถาม

    ข้าพเจ้าจะรอคอยคำถาม

    ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

     

    คำตอบ

    1. คนที่ผิดก็คือสามีคุณในฐานะเป็นคนปลอมแปลงลายมือชื่อ และคนที่นำเอกสารนั้นไปกู้เงิน ก็ผิด ในฐานะใช้เอกสารปลอมแปลง   ส่วนการบอกเลิกสัญญาเงินกู้นั้น คุณทำไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้เป็นคนกู้ คุณได้แต่จะไปแจ้งให้เจ้าหนี้เขาทราบว่าคุณไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสารการค้ำประกัน และไม่ขอรับผิดชอบในการค้ำประกันนั้น  ซึ่งเขาก็คงไปบอกเลิกการกู้หนี้นั้นเองหรือบังคับให้ลูกหนี้ไปหาคนค้ำประกันใหม่

    2. ฟ้องได้ทั้งสองคน

    3. ในแง่ของคุณไม่มีอะไรเสีย มีแต่ผลดี เพราะถ้าไม่แจ้งความคุณก็อาจต้องรับผิดในหนี้ที่เขากู้กันมา เพราะลักษณะของการกระทำแบบนี้ แสดงว่าสามีคุณไม่ได้รู้ถึงความหนักเบาของการเอาภรรยาเที่ยวได้ไปค้ำประกันการกู้เงินของคนอื่น ว่าง ๆ ก็ลองให้เขาเข้าไปอ่านในคอลัมน์นี้ในหัวข้อ "ค้ำประกัน" ดู ว่าแต่ละคนหมดเนื้อหมดตัวกันอย่างไรบ้าง  หรือมิฉะนั้นก็อาจเป็นได้ว่าสามีคุณมีส่วนแบ่งในการกู้เงินนั้น ซึ่งในอนาคตหนี้ทั้งหมดก็คงตกมาที่คุณที่จะต้องไปชำระหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกัน  แต่เมื่อคุณแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็คงต้องดำเนินคดีกับสามีคุณและคนที่เป็นลูกหนี้ที่นำเอกสารนั้นไปใช้

    4. มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท ส่วนที่ถามว่าจะคุ้มหรือไม่นั้น คุณคงต้องคิดเองว่าคุณจะรับชำระหนี้นั้นแทนเขาหรือไม่ ถ้าคุณอยู่ในฐานะที่จะชำระหนี้แทนเขาได้ในวันข้างหน้า ก็ไม่ต้องทำอะไร เตรียมเงินไว้ก็แล้วกัน   สำหรับสามีคุณนั้น ถ้าเป็นข้าราชการ ก็เสี่ยงต่อการถูกไล่ออกในวันข้างหน้า เพราะลักษณะการกระทำอะไรง่าย ๆ และไม่รับรู้ถึงความหนักเบาแห่งการกระทำเช่นนี้ วันหนึ่งข้างหน้าก็คงทำผิดทางวินัยอื่น ๆ จนถูกไล่ออกจากงานจนได้

          ฟังตอนท้ายของคำถามที่ว่า "ไม่สบายใจต่อการค้ำประกันรายนี้"  เหมือนกับว่า ถ้าเป็นรายอื่น คุณก็คงค้ำประกันได้ด้วยความสบายใจ  ซึ่งแปลว่าคุณเองก็อาจไม่รู้ว่าการค้ำประกันคนนั้นทำให้หมดตัวและในที่สุดล้มละลายได้อย่างไร อันคนค้ำประกันนั้นมีฐานะไม่ต่างจากไปเป็นลูกหนี้ร่วมกับเขาโดยไม่ได้อะไรเลย ลองอ่านคำถาม 40971 ดูเป็นตัวอย่างซี


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    8 กรกฎาคม 2553