ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    040968 การที่รัฐมนตรีอนุมัติสัมปทานให้บริษัทต่างชาติเจาะสำรวจน้ำมันในทะเลซึ่งใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวnives8 กรกฎาคม 2553

    คำถาม
    การที่รัฐมนตรีอนุมัติสัมปทานให้บริษัทต่างชาติเจาะสำรวจน้ำมันในทะเลซึ่งใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว

    เรียนท่านอาจารย์

                 การที่รัฐมนตรีอนุมัติให้สัมปทานบริษํทขุดเจาะสำรวจน้ำมันต่างชาติ มาขุดเจาะในทะเลใกล้แหล่งท่องเที่ยว

                กระบวนการนี้ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ของประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบในท้องถิ่น ตาม ม.67 ของรัฐธรรมนูญ

                 อยากถามว่า

    1.ควรมีการทำประชาพิจารณ์ก่อน รัฐมนตรีอนุมัติให้สัมปทานขุดเจาะหรือไม่

       หรือว่า อนุมัติให้สัมปทานก่อนแล้ว ค่อยทำประชาพิจารณ์ตอนหลัง   อย่างใดควรมาก่อนกันแน่     มันคล้ายกับการตัดขยายถนนขึ้นเขาใหญ่หรือไม่ ที่กระทรวงคมนาคมอนุมัติให้ขยายถนน ก่อนการทำประชาพิจารณ์ของผู้ได้รับผลกระทบ ทำให้ในที่สุด นายกฯ ต้องสั่งระงับการขยายถนน และวุฒิสมาชิกคนหนี่งได้บอกว่า รัฐบาลข้ามขั้นตอนในการอนุมัติโครงการ คือไปอนุมัติก่อนประชาพิจารณ์ ซึ่งผิดขั้นตอนตาม ม.67

    2.ถ้ารัฐให้สัมปทานบริษํทขุดเจาะสำรวจน้ำมันไปก่อน และมาทำประชาพิจารณ์หลอกๆในท้องถิ่นโดยใช้เงินปิดปาก ไม่ประชาสัมพันธ์ให้คนทราบ แล้วประชาชนมารู้ว่าแอบมาทำเงียบๆ  เพื่อให้โครงการผ่าน  เราจะฟ้องหน่วยงานไหนให้ยุติสิ่งที่กระทบต่อชุมชน และต้องฟ้องใตร  ศาลปกครองหรือเปล่า

    3.เทศบาล สามารถฟ้องศาลปกครองได้หรือไม่ กรณีที่รัฐบาลได้อนุมัติโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยชุมชนไม่ต้องการ หรือต้องให้ประชาชนฟ้องเอง

    4.การยื่นรายชื่อของประชาชนในถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากโครงการของรัฐเพื่อคัดค้าน ต้องใช้รายชื่อกี่คน และยื่นให้หน่วยงานไหน หรือยื่นรัฐบาลโดยตรง

    คำตอบ

    1. ถ้าจะให้เรื่องเรียบร้อยไม่ถูกฟ้องร้องในภายหลัง ก็ควรทำเสียก่อนที่จะอนุมัติสัมปทาน เว้นแต่ในสัมปทานนั้นจะกำหนดเงื่อนไขไว้ว่าถ้าผลการศึกษาผลกระทบและการทำประชาพิจารณ์ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ก็ให้สัมปทานนั้นเป็นอันระงับไป ถ้ามีเงื่อนไขอย่างนี้ ก็ปลอดภัย

    2. ก็ต้องฟ้องหน่วยงานที่ให้สัมปทาน และฟ้องต่อศาลปกครอง

    3. ไม่แน่ใจว่าเทศบาลจะอยู่ในฐานะที่จะฟ้องได้

    4. เมื่อราษฎรมีทุกข์นั้น ถึงจะมีจำนวนเท่าไร ก็ร้องเรียนได้เสมอ ไม่มีกฎหมายกำหนดว่าต้องมีจำนวนเท่าไร  แต่ถ้าเข้าชื่อกันมาก ๆ ก็อาจทำให้หน่วยงานของรัฐให้ความสนใจมากขึ้น

          ต้องเข้าใจว่าในการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่ได้แปลว่า ถ้ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วจะทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำก็คือว่าจะสามารถป้องกันผลกระทบนั้นได้อย่างไร ด้วยวิธีใดจึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดความเสียหาย  ส่วนการทำประชาพิจารณ์นั้น ก็ไม่ใช่เป็นการไปถามว่าประชาชนจะเอาหรือไม่เอาโครงการนั้น  การถามเช่นนั้นเป็นเรื่องของประชามติไม่ใช่ประชาพิจารณ์ การทำประชาพิจารณ์เป็นการไปถามประชาชนเพื่อรับรู้ว่าเมื่อทำโครงการนั้นแล้วจะเกิดผลกระทบอย่างไรกับประชาชน เมื่อรู้ว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรแล้ว ก็ต้องมาหาลู่ทางว่าจะป้องกันผลกระทบนั้นได้อย่างไร หรือถ้าป้องกันไม่ได้จะแก้ไขเยียวยาผลกระทบนั้นมิให้ประชาชนเดือดร้อน หรือเดือดร้อนน้อยที่สุดได้อย่างไร ดังนั้นในเวลาที่มีการทำประชาพิจารณ์นั้น สิ่งที่ประชาชนควรเตรียมตัวก็คือ ผลกระทบคืออะไร เขาจะต้องป้องกันผลกระทบนั้นอย่างไร และวิธีการเยียวยาความเดือดร้อนจะต้องทำอย่างไร ประชาชนจึงจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข เพื่อคนที่เกี่ยวข้องเขาจะได้ไปคิดอ่าน ถ้าเขาคิดไม่ออก เขาก็จะทำโครงการนั้นไม่ได้


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    8 กรกฎาคม 2553