ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    040898 พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ฉบับที่ผู้เสียหายเป็นผู้ร่าง..หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม2 กรกฎาคม 2553

    คำถาม
    พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ฉบับที่ผู้เสียหายเป็นผู้ร่าง..

    เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพนับถืออย่างสูง

      ผมหมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม..หายไปนานพอควร แต่ยังติดตามอาอาจารย์เสมอครับ พอดีไม่นานมานี้ผมไปประชุมที่ส่วนกลาง ไปเห็น พรบ.ฉบับหนึ่งที่ แจก ผมอ่านแล้วตกใจ คิดว่าอาจารย์มีชัย คงเคยเห็น ดังนี้ครับ

     
     
     พรบ. คุ้มครองผู้เสียหาย จากการรับบริการ สาธารณสุข ฉบับ ที่ผู้เสีย หายเป็นผู้ร่าง ได้ผ่าน มติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 7 เมษายน 2553 และนำเข้าสู่สภา ผู้แทราษฎร เมื่อเดือน พฤษภาคม 2553 แต่ยังไม่ถูกนำ มาพิจารณาเนื่องจากเกิด
    เหตุการณ์ไม่สงบทางการ เมืองใน กรุงเทพ เสียก่อน สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ

    1. สถานพยาบาล ที่ถูกร้อง ได้แก่ - รพ. ของรัฐ ทุกแห่ง ทุกกระทรวง ทบวงกรม รพ. เอกชน คลินิกเอกชน สถาน พยาบาล สถานีอนามัย (Lab และ ร้านขายยา น่าจะอยู่ใน ข่ายด้วย)
    2. ผู้ให้บริการที่ถูกร้อง ได้ แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักเทคนิคการแพทย์ เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขอื่น ๆ
    3. คณะกรรมการ มี 21 คน มี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน กรรมการโดย ตำแหน่ง คือ ปลัด และอธิบดี หลายกระทรวง 6 คน ตัวแทน สถานพยาบาล   3 คน ตัวแทน NGO 8 คน ไม่มีตัวแทนสภาวิชาชีพ แม้แต่คนเดียว และ เลขาคือ อธิบดีกรมสนับสนุน และ เจ้าหน้าที่ 3 คน
    4. ตัดสินถูกผิด ชี้ขาด โดย เสียงข้างมาก ไม่เอาความเห็นด้านวิชาการมาร่วม
    พิจารณา
    5. กองทุนเงินชดเชย มาจาก

           ​1. โอนมาจาก ม. 41 ของ สปสช.
           2. สถานพยาบาลจ่ายสมทบ จะ เพิ่มขึ้นอีกถ้าถูกร้อง บ่อย
           3. เงินอุดหนุนจากรัฐ บริหารโดย คณะกรรมการ 21 คน นี้
    6. ผู้เสียหาย ขอเงินชดเชย ได้ ใน 3 ปี นับแต่วันที่รู้ ว่ามีผลเสียต่อร่างกายจาก
    การรักษา และขอได้อีกหลังจากนั้น ถ้าเกิด อาการใหม่ ไม่จำกัดครั้ง ใน 10 ปี
    7. จ่ายเงินชดเชย ขั้นต้น ภายใน 7 วัน ขั้นต่อมา พิสูจน์ ถูกผิด และตัดสินแล้ว     จ่ายใน 30 วัน
    8. ถ้าผู้เสียหายพอใจ รับ เงิน และทำสัญญาประณีต ประนอมยอมความ ถ้าไม่พอใจ มี 2 ทาง คือ อุทธรณ์ขอเงิน เพิ่ม ใน 30 วัน หรือ ฟ้องคดี อาญา แล้วขอรัเงินนี้ภาย หลังได้
    9. ฟ้องคดีอาญา แล้วชนะ - ผู้ ร้อง จะได้

                      1. เอาผู้ให้ บริการเข้าคุก

                      2. ได้เงิน สินไหมทดแทนทางเพ่ง
    - ผู้ถูกร้อง จะได้

                    1. ติด คุก
                    2. จ่ายเงินสินไหมทดแทนทาง เพ่ง จำนวนมาก
                    ​3. ถูกยึดใบ ประกอบวิชาชีพ ทำงานไม่ ได้
                   ​ 4. ถูกให้ออกจาก ราชการ ผิดวินัยร้ายแรง ไม่มีบำเหน็จบำนาญ
                    5. เข้า รับราชการอีกไม่ได้ เพราะ เคยถูกตัดสินคดีอาญา     ข้อ 3 4 และ 5 มีผล อัตโนมัติ จาก การถูกตัดสินคดีอาญาผู้แพ้คดีและครอบครัวจาก การถูกฟ้องคดีอาญาเพียง ครั้งเดียว ก็ล้มสะลาย ทั้งชีวิต
    *ประเทศอินเดีย อังกฤษ อเมริกา และแคนนาดา ไม่มี การฟ้องคดีอาญาผู้ให้
    บริการการรักษาช่วยชีวิต ผู้ป่วยมีเพียงฟ้องเพ่ง เท่านั้น*
    พ.ร.บ. ฉบับเต็ม เข้าดูได้ใน we b แพทย์สภา www.moph.go.th หรือ www.tmc.or.th ซึ่งจะมีฉบับร่างของ กระทรวงสาธารณสุขที่ทำมา 3 ปี รอเข้า ครม. ให้เปรียบ เทียบด้วย
     

    ..ผมในฐานะผู้ให้บริการอยู่ชนบทห่างไกลความเจริญ อยู่ด้วยความจริงใจค่อกันระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ มาด้วยดีมาตลอด เห็นอกเห็นใจกันอยู่ร่วมกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน...ถ้า พรบ ฉบับนี้ผ่านบังคับใช้ ผมมิอาจคาดเดาเลยว่าความเป็นคนไทยที่เอื้ออารีต่อกันจะเป็นอย่างไร  การมีความคุ้มครองผู้บริโภคนั้นเป็นสิ่งดีมาก แต่ควรเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย...ไม่เช่นนั้นจะเกิดมี พรบ.ฉบับผู้ให้บริการเป็นผู้ร่าง แล้วมันจะทะเลาะ ความปรองดองจะเกิดใด้อย่างไร.....

      อาจารย์ดิดว่าพอมีทางออกใดบ้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย (ดูเหมือนว่าผู้ร่วมร่าง พรบ ฉบับนี้มีอคติกับแพทย์และผู้ให้บริการมากเกินเหตุ)

    ไทย เรากำลังจะปรองดองกันน่าจะมีทางออกที่ยอมรับกันได้บ้าง

        ขอบพระคุณอาจารย์มีชัยอย่างสูง

                                                              เคารพนับถืออย่างสูง

                                                          หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม
     
     


    คำตอบ

    เรียน คุณหมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม

        ดีใจที่ได้รับข่าวจากคุณหมอ ยังนึกเป็นห่วงและเอาใจช่วยอยู่เสมอ  สำหรับร่างกฎหมายที่เล่ามานั้น ผมไม่เคยเห็น ฟังจากที่คุณหมอเล่ามาก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย ทุกวันนี้คนไทยลอกเลียนแบบฝรั่งมามากขึ้นทุกวัน เมื่อลอกมาแล้วก็ทิ้งสิ่งดี ๆ ของคนไทย หรือบางทีก็เอามาแทนที่ความดีงามที่มีอยู่ แต่เวลาเอาของเขามานั้น ไม่ได้เอามาทั้งหมด หากแต่เอามาแต่เฉพาะส่วนที่คิดว่าตนจะได้รับประโยชน์ บ้านเมืองจึงเสื่อมโทรมลงทุกที  ที่สำคัญก็คือ เราไม่อาจพึ่งพาสภาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะสภาก็มัวแต่ยุ่งกับการชิงไหวชิงพริบกันในทางการเมือง โดยไม่มีใครดูรายละเอียดของกฎหมายที่จะผ่านสภา ถ้าปล่อยไปเฉย ๆ กฎหมายก็คงออกมาอย่างที่ NGO บางกลุ่มต้องการ เพราะสภาอาจนึกว่าการเอาใจกลุ่มคนเหล่านั้นจะทำให้ดูดี และได้คะแนนเสียง  ดังนั้น ทางแก้ก็คือ สภาวิชาชีพทั้งหมด ควรจะหารือกันแล้วออกมาบอกว่าร่างกฎหมายนั้นจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างไรกับสังคมในอนาคต และต้องทำในลักษณะผนึกกำลังกันให้เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ บางทีรัฐบาลและสภาอาจจะรอบคอบมากขึ้นก็ได้


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    2 กรกฎาคม 2553