พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ฉบับที่ผู้เสียหายเป็นผู้ร่าง..
เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพนับถืออย่างสูง
ผมหมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม..หายไปนานพอควร แต่ยังติดตามอาอาจารย์เสมอครับ พอดีไม่นานมานี้ผมไปประชุมที่ส่วนกลาง ไปเห็น พรบ.ฉบับหนึ่งที่ แจก ผมอ่านแล้วตกใจ คิดว่าอาจารย์มีชัย คงเคยเห็น ดังนี้ครับ
พรบ. คุ้มครองผู้เสียหาย จากการรับบริการ สาธารณสุข ฉบับ ที่ผู้เสีย หายเป็นผู้ร่าง ได้ผ่าน มติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 7 เมษายน 2553 และนำเข้าสู่สภา ผู้แทราษฎร เมื่อเดือน พฤษภาคม 2553 แต่ยังไม่ถูกนำ มาพิจารณาเนื่องจากเกิด เหตุการณ์ไม่สงบทางการ เมืองใน กรุงเทพ เสียก่อน สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ
1. สถานพยาบาล ที่ถูกร้อง ได้แก่ - รพ. ของรัฐ ทุกแห่ง ทุกกระทรวง ทบวงกรม รพ. เอกชน คลินิกเอกชน สถาน พยาบาล สถานีอนามัย (Lab และ ร้านขายยา น่าจะอยู่ใน ข่ายด้วย) 2. ผู้ให้บริการที่ถูกร้อง ได้ แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักเทคนิคการแพทย์ เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขอื่น ๆ 3. คณะกรรมการ มี 21 คน มี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน กรรมการโดย ตำแหน่ง คือ ปลัด และอธิบดี หลายกระทรวง 6 คน ตัวแทน สถานพยาบาล 3 คน ตัวแทน NGO 8 คน ไม่มีตัวแทนสภาวิชาชีพ แม้แต่คนเดียว และ เลขาคือ อธิบดีกรมสนับสนุน และ เจ้าหน้าที่ 3 คน 4. ตัดสินถูกผิด ชี้ขาด โดย เสียงข้างมาก ไม่เอาความเห็นด้านวิชาการมาร่วม พิจารณา 5. กองทุนเงินชดเชย มาจาก
1. โอนมาจาก ม. 41 ของ สปสช. 2. สถานพยาบาลจ่ายสมทบ จะ เพิ่มขึ้นอีกถ้าถูกร้อง บ่อย 3. เงินอุดหนุนจากรัฐ บริหารโดย คณะกรรมการ 21 คน นี้ 6. ผู้เสียหาย ขอเงินชดเชย ได้ ใน 3 ปี นับแต่วันที่รู้ ว่ามีผลเสียต่อร่างกายจาก การรักษา และขอได้อีกหลังจากนั้น ถ้าเกิด อาการใหม่ ไม่จำกัดครั้ง ใน 10 ปี 7. จ่ายเงินชดเชย ขั้นต้น ภายใน 7 วัน ขั้นต่อมา พิสูจน์ ถูกผิด และตัดสินแล้ว จ่ายใน 30 วัน 8. ถ้าผู้เสียหายพอใจ รับ เงิน และทำสัญญาประณีต ประนอมยอมความ ถ้าไม่พอใจ มี 2 ทาง คือ อุทธรณ์ขอเงิน เพิ่ม ใน 30 วัน หรือ ฟ้องคดี อาญา แล้วขอรัเงินนี้ภาย หลังได้ 9. ฟ้องคดีอาญา แล้วชนะ - ผู้ ร้อง จะได้
1. เอาผู้ให้ บริการเข้าคุก
2. ได้เงิน สินไหมทดแทนทางเพ่ง - ผู้ถูกร้อง จะได้
1. ติด คุก 2. จ่ายเงินสินไหมทดแทนทาง เพ่ง จำนวนมาก 3. ถูกยึดใบ ประกอบวิชาชีพ ทำงานไม่ ได้ 4. ถูกให้ออกจาก ราชการ ผิดวินัยร้ายแรง ไม่มีบำเหน็จบำนาญ 5. เข้า รับราชการอีกไม่ได้ เพราะ เคยถูกตัดสินคดีอาญา ข้อ 3 4 และ 5 มีผล อัตโนมัติ จาก การถูกตัดสินคดีอาญาผู้แพ้คดีและครอบครัวจาก การถูกฟ้องคดีอาญาเพียง ครั้งเดียว ก็ล้มสะลาย ทั้งชีวิต *ประเทศอินเดีย อังกฤษ อเมริกา และแคนนาดา ไม่มี การฟ้องคดีอาญาผู้ให้ บริการการรักษาช่วยชีวิต ผู้ป่วยมีเพียงฟ้องเพ่ง เท่านั้น* พ.ร.บ. ฉบับเต็ม เข้าดูได้ใน we b แพทย์สภา www.moph.go.th หรือ www.tmc.or.th ซึ่งจะมีฉบับร่างของ กระทรวงสาธารณสุขที่ทำมา 3 ปี รอเข้า ครม. ให้เปรียบ เทียบด้วย
..ผมในฐานะผู้ให้บริการอยู่ชนบทห่างไกลความเจริญ อยู่ด้วยความจริงใจค่อกันระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ มาด้วยดีมาตลอด เห็นอกเห็นใจกันอยู่ร่วมกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน...ถ้า พรบ ฉบับนี้ผ่านบังคับใช้ ผมมิอาจคาดเดาเลยว่าความเป็นคนไทยที่เอื้ออารีต่อกันจะเป็นอย่างไร การมีความคุ้มครองผู้บริโภคนั้นเป็นสิ่งดีมาก แต่ควรเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย...ไม่เช่นนั้นจะเกิดมี พรบ.ฉบับผู้ให้บริการเป็นผู้ร่าง แล้วมันจะทะเลาะ ความปรองดองจะเกิดใด้อย่างไร.....
อาจารย์ดิดว่าพอมีทางออกใดบ้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย (ดูเหมือนว่าผู้ร่วมร่าง พรบ ฉบับนี้มีอคติกับแพทย์และผู้ให้บริการมากเกินเหตุ)
ไทย เรากำลังจะปรองดองกันน่าจะมีทางออกที่ยอมรับกันได้บ้าง
ขอบพระคุณอาจารย์มีชัยอย่างสูง
เคารพนับถืออย่างสูง
หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม
|