ทำอย่างไรจึงจะรับแจ้งความครับ
ผมขอขอบพระคุณท่านฯอย่างสูงครับ ที่คราวก่อนท่านกรุณาให้คำตอบแก่กระผมทำให้ได้รับความกระจ่าง ซึ่งในครานี้ผมใคร่ขอรบกวนท่านฯอีกสักเรื่องหนึ่งครับผม ด้วยเรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนของผมได้ถูกหลอกล่อให้ไปทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์มือสองคันหนึ่ง โดยผู้ที่ขอร้องนั้นเป็นลูกน้องซึ่งทำงานที่เดียวกัน มีการตกลงกันว่า ให้เพื่อนของผมเซ็นสัญญาเป็นผู้เช่าซื้อและ เขาผู้ที่ขอร้องเพื่อนผมนั้นจะเป็น คนนำรถไปใช้และเป็นผู้ผ่อนชำระเอง เมื่อวันทำสัญญาเพื่อนผมได้เซ็นไปตามที่เขาร้องขอโดยเมื่อเซ็นแล้วก็มิได้รับการติดต่อให้ไปรับรถเลยและไม่เคยได้รับคู่สัญญา
จนเมื่อมีหนังสือทวงถามให้ชำระค่าเช่าซื้อซึ่งติดค้างอยู่หลายงวด จึงได้รู้ว่ามีการส่งมอบรถกันแล้ว แต่เมื่อเพื่อนของผมได้ทราบว่าผู้ที่นำรถไปใช้นั้นไม่ได้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อตามที่ตกลงกันจึงได้ติดต่อไปว่า ขอให้นำรถมาให้ดูและจะได้ตกลงกันใหม่เพราะทางผู้ให้เช่าซื้อก็ยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาให้เขาเป็นผู้เช่าซื้อ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนเมื่อหมดหนทางเพื่อนผมจึงได้ออกติดตามรถเองและได้พบว่ารถได้ไปอยู่กับพี่สาวของผู้ครอบครองรถในครั้งแรกจึงได้ทวงถามไปว่าจะนำรถมาคืนได้ไหมเพราะผู้ให้เช่าซื้อกำลังจะฟ้องเพื่อนของผมแล้ว เมื่อตกลงกันได้ก็จึงได้นัดวันเจรจาและส่งมอบรถกันที่ สน.แห่งหนึ่ง ครับซึ่งผมได้ไปด้วยในวันนั้น พอถึงวันนัดปรากฏว่า ผู้ที่ครอบครองรถไม่ได้มาเลย มีเพียงฝ่ายเพื่อนผมและ ไฟแนนซ์ และ ดาบ ตร.ผู้หนึ่งซึ่งลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกัน
เพื่อนผมจนหนทางไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ขอคำแนะนำจากผมซึ่งผมเองเป็นเพียงผู้ฝึกงานในสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง ก็ได้พยายามสอบถามทนายรุ่นพี่ว่าจะทำอย่างไรดี จึงได้คำแนะนำว่าให้ไปแจ้งความ ฐานยักยอกทรัพย์
ผมและเพื่อนจึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน แต่ด้วยผมด้อยประสบการณ์หรือไม่เข้าใจระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็มิอาจทราบได้ เพียงแค่เพื่อนผมและผมได้เอ่ยไปว่าขอแจ้งความฐานยักยอก และเล่าเหตุการณ์ให้ฟังพร้อมทั้งบอกว่าได้ลงประจำวันไว้แล้วและนำให้ หมวดท่านหนึ่งดูกลับโดนต่อว่าว่า ทำไมเมื่อร้องทุกข์กับร้อยเวรคนใดทำไมจึงไม่ไปร้องทุกข์กับคนนั้นและบอกว่าไม่สามารถรับเรื่องได้ ในขณะพูดคุยกันก็ได้มีร้อยตำรวจตรีอีกท่านหนึ่งตรงเข้ามาโดยไม่ทราบมาทำอะไรเมื่อฝ่ายร้อยตำรวจโท ญ ท่านนั้นบอกผมว่าจะแจ้งความไม่ได้เด็ดขาดในวันนี้ ผมก็ยืนยันว่าทำไมไม่ได้ผมจะต้องแจ้งนะ ท่านร้อยตรีชายซึ่งได้เดินเข้ามาก็ถามผมว่าทำไมไม่โทรแจ้งให้ร้อยเวรซึ่งผมได้ลง ปจว . ไว้ทราบล่วงหน้าและให้มาแจ้งกับคนนั้น และในท้ายที่สุด ร้อยตำรวจโทหญิง ท่านแรกก็ได้ ฉุนเฉียวใส่ผมเป็นอย่างมากและปิดแฟ้มและพูดกับผมว่าใครจะทำก็ทำฉันไม่ทำแล้วและยังบอกผมเสียงดังอีกว่า คุณเรียนกฎหมายมาคุณไม่รู้หรอก และเดินออกไปจากห้องทันที ส่วนร้อยตำรวจตรีรุ่นน้องของท่านหมวด ญ นั้นก็มาถามผมอีกว่าจบทนายมากี่ปีไม่รู้เรื่องเลยพร้อมทั้งส่ายหัว ผมเองจบกฎหมายมาก็ด้อยประสบการณ์แต่ก็ไม่ถึงกับตกใจมากเท่าไหร่เพราะพอจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องเหลานี้มาบ้างแต่เพื่อนผมซึ่งเป็นเจ้าทุกข์ถึงกับตัวสั่น ทำไมเจ้าหน้าที่จึงได้พูดอย่างนี้ทำอะไรไม่ถูก
เวลาผ่านไปสักห้านาทีได้ครับก็มี ดาบตำรวจหญิงท่านหนึ่ง
มาเรียกผมและเพื่อนไปพบกับ ร้อยเวรซึ่งเพื่อนผมได้ลง ปวจ ไว้ด้วยเมื่อได้พบก็พูดคุยกัน ผมไม่ทราบจะทำอย่างไรได้แต่นั่งอึ้ง สุดท้ายก็ไม่ได้แจ้งความโดยท่าน ร้อยเวรก็ได้นัดมาอีกทีในวันถัดมา ด้วยความมึนงงของกระผมในเรื่องนี้เป็นอย่างมากจึงใคร่ขอถามท่านฯดังนี้ครับ
1.เหตุใดผมจึงแจ้งความร้องทุกข์กับร้อยเวรท่านอื่นไม่ได้นอกจากท่านที่ลงประจำวันให้ผม เพราะเหตุใด ผมเคยอ่านแต่ในตำรา ก็คิดว่าท่านใดก็น่าจะมีอำนาจแต่เมื่อเจออย่างนี้ผมถึงกับท้อถอยไม่อยากจะศึกษาหรือเกี่ยวข้องกับวิชากฎหมายใดๆอีกต่อไป เรียกได้ว่า เกือบหมดศรัทธา หรือเพราะผมผิดเองจริงๆ ศึกษาแบบผิดๆครับท่าน
2.ผู้เช่าซื้อเป็นผู้เสียหายหรือไม่ครับ แล้วมีสิทธิแจ้งความร้องทุกข์ได้อย่างไรหรือไม่ครับท่าน
ผมได้พาเพื่อนไปแจ้งความและยืนยันว่าแจ้งฐานยักยอกทรัพย์ แต่ท่านร้อยเวรก็ได้บอกว่าไม่รุ้จะเข้ายักยอกหรือไม่ ท่านก็มีความเห็นของท่านท่านว่าอย่างนั้นผมเองก็มิได้โต้เถียงต่อ จนเมื่อเพื่อนผมให้การแล้วเสร็จไปสองชั่วโมง ผมจึงได้ขอถ่ายประจำวันไว้เป็นหลักฐานท่านร้อยเวรก็บอกว่ายังไม่ได้ลงต้องขอหลักฐานเพิ่มก่อน คือ ให้เพื่อนผมไปขอคุ่สัญญาจากผู้เช่าซื้อซึ่งก็จะฟ้องกันอยู่แล้ว เขาก็ไม่ยอมให้ท่าเดียว ทั้งจะไปขอให้ทางผู้ให้เช่าซื้อมอบอำนาจให้มาแจ้งความร้องทุกข์อีก เขาก็ไม่ยอมเช่นกันครับ
ผมเองอ่านแต่ตำราพยายามศึกษาแต่รุ่นพี่ทนายก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรไม่ทราบจริงๆครับว่า เป็นอย่างไร ทุกวันนี้รู้สึกท้อถอยเพราะคิดว่าสิ่งที่ตั้งใจเรียนมาไม่สามารถนำมาใช้ได้จริงในทางปฏิบัติ ทั้งที่จบมาแล้วแต่ก็ยังหาที่ฝึกงานอย่างจริงจังก็ไม่มีท่านใดสนใจจะฝึกฝนให้ผมก็ได้แต่อดทนศึกษาและจดจำขอติดตามไป แต่บางครั้งเห็นการปฏิบัติตัวของทนายรุ่นพี่หลายๆคนก็ไม่อยากจะเป็นนักกฎหมายเสียแล้วทั้งยังเจอกับเจ้าหน้าที่หลายๆองค์กรที่ ผมเห็นแล้วไม่อยากจะอธิบายเลย รุ่นพี่ทนายหลายท่านถึงกับบอกกับผมว่าไม่เหมาะจะเป็นทนายความให้ไปสอบราชการดีกว่า ผมไม่ทราบว่าจะดีกว่าอย่างไร ผมเพียงแต่คิดว่าทนายความนั้น เข้าถึงปัญหาของผู้ที่เดือดร้อนได้เร็วและง่ายคล่องตัวกว่าไม่ต้องรอ ไม่ต้องมีระดับบังคับบัญชา ในวันนี้จึงรู้สึกหลงทางและไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อดีครับ และคิดว่าหากทำไม่ได้จริงๆคงหันหลังกลับเสียทีคงดีกว่า
ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ
|