พ่อมีลูก 4 คน แม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาพ่อเสียชีวิต พี่น้องได้มีการคุยกันเพื่อแบ่งมรดกของพ่อและได้ให้พี่คนโตเป็นผู้จัดการมรดก โดยในการแบ่งมรดกก่อนศาลแต่งตั้งให้พี่คนโตเป็นผู้จัดการมรดก มีน้อง 1 คนไม่ได้ส่วนแบ่งใด ๆ ในกองมรดก ส่วนอีก 3 คนได้ส่วนแบ่งไม่เท่ากัน โดยคนโตได้ส่วนแบ่งมากกว่าและอีก 2 คนได้เท่ากัน ปัญหามีอยู่ว่าลูกคนที่ไม่ได้มรดกเลยไปตกลงนอกรอบกับพื่คนโตขอเงินสดส่วนหนึ่งจากกองมรดกในส่วนของพื่คนโต โดยเป็นสัญญาปากเปล่า แต่หลังจากคำสั่งศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเรียบร้อย พี่คนโตก็ผิดสัญญาไม่ได้จ่ายเงินในส่วนที่ตกลงว่าจะให้กับลูกคนที่ไม่ได้มรดก ทั้ง ๆ ทีมีพยานรับรู้ข้อตกลงที่ว่า แต่พยานก็ไม่สามารถทำอะไรได้ อ้างว่าเป็นเรื่องของพี่น้องให้ไปคุยกันเอง
เหตุที่มีลูก 1 คนที่ไม่ได้รับมรดกในการตกลงก่อนแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเน่ืองจาก พ่อมีอาคารพาณิชย์(ราชพัสดุ) อยู่ 2 ที่ โดยที่แรกตกลงโอนให้พื่คนโต และอีกที่โอนให้ลูกคนที่ไม่ได้รับมรดก โดยน้อง 2 คนที่ได้ส่วนแบ่งเท่ากันร่วมกับพี่คนโตกีดกันไม่ให้ได้รับมรดก โดยอ้างว่าได้อาคารพาณิชย์ (ราชพัสดุ) ไปแล้ว แต่อาคารพาณิชย์ทั้ง 2 ที่พี่น้องรับรู้อยู่แก่ใจว่าพ่อในตอนมีชีวิตอยู่ต้องการโอนให้พื่ชายคนโตและน้องคนที่่ไม่ได้รับมรดก
ปัญหาจะเรียนถามอาจารย์มีชัยคือ
จะทำอะไรได้บ้างเพื่อเรียกร้องเงินที่พื่ชายคนโตเบี้ยวไป โดยไม่ทำให้น้อง 2 คนเดือดร้อน