ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    040669 ซื้อขายรถCaps18 มิถุนายน 2553

    คำถาม
    ซื้อขายรถ

    เรียน อาจารย์มีชัย ที่เคารพ

    มีเรื่องการซื้อาขยรถอยากเรียนถามดังนี้ เมื่อประมาณปีที่แล้วได้ขายรถออกไป 1 คัน โดยที่ยังผ่อนไม่หมด ยังมีหนี้ค้างอยู่ ปรากฎว่าบริษัทรถแจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ จึงตกลงยอมความกันว่าในส่วนที่เหลือที่คงค้างให้เป็นการเซ็นต์สัญญากู้ยืมเงินและคิดดอก ยอดเงินทั้งหมดสองแสนกว่าบาท โดยแบ่งชำระเป็นงวด งวดละสองหมื่นกว่าบาท (สัญญาของรถคันนี้ได้เซ็นต์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 53) 

    และเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 53 ได้ทำการฝากขายรถไว้กับบริษัทฯแห่งเดิม โดยในใบระบุฝากขายนั้นไม่ได้แจ้งว่าจะคิดค่าเช่าจอดฝากขาย ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าจะคิดค่าคอมมิชชั่น ต่อมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีผู้ต้องการซื้อรถติดต่อเข้ามาและตกลงซื้อขายกันในราคาที่ได้กำหนดไว้ และผู้ขอซื้อได้จ่ายเงินมาเรียบร้อยแล้วโดยมีบริษัทนี้เป็นตัวกลางรับเงิน ซึ่งในสัญญาซื้อขายนั้น ระบุว่า ยอดขายเท่านี้ หักจำนวนงวดที่งค้างออก จะเหลือรับเงินเก้าแสนห้าเศษ แล้วพอวันรุ่งขึ้นนัดรับเช็คคิดว่าน่าจะได้รับในจำนวนเงินที่เหลือหลังการหักค่งวดคงค้างตามยอดสามแสนกว่าบาทที่แจ้งไว้ในใบซื้อขาย และยอดที่ได้รับสุทธิคือเก้าแสนห้าเศษปรากฎว่า เจ้าของบริษัทแห่งนี้ ได้ทำการคิดค่าเข่าจอดรถตามจำนวนเดือนที่จอดฝากขาย (ในใบฝากไม่ได้ระบุไว้ และคิดค่าคอมมิชชั่น 3%(ในรายละเอียดใบฝากขายก็ไม่ได้ระบุเช่นกัน) และได้บอกว่าขอยอกเลิกสัญญากู้ยืมเงินของรถคันแรก โดยบอกว่าฉบับนั้นไม่เอาแล้ว ขอหักเงินของรถคันแรกออกไปด้วยพร้อมทั้งคิดดอกทั้งปี ทั้งๆที่เราผ่อนมาได้ 4 งวด และคิดค่าเสียเวลาไปอีกเป็นหมื่นๆ ในความเป็นจริงแล้ว รถสองคันนี้มันคนละสัญญากัน มันไม่น่าจะมาหักลบรวมกันได้  หรือพอเห็นเราขายรถได้ก็เกิดอยากจะได้เงินก็เลยยกเลิกสัญญาของคันแรกและมาหักหนี้เราจากคันที่สอง ทำอะไรแบบชาวบ้าน ชาวบ้าน ไม่ได้มีจรรยาบรรณของนักธุรกิจเลย ซึ่งมันเป็นการหักคอหรือไม่ซื่อสำหรับคนที่ทำธุรกิจเช่นนี้  สรุปแล้วยอดเงินที่รับเช็คเหลือแค่ห้าแสน

    จึงอยากเรียนถามอาจารย์ว่า เราฟ้องคดีแพ่งและสามารถเล่นงานบริษัทแห่งนี้ในคดีอาญาด้วยได้หรือไม่ เหตุการณ์แบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่ หรืออย่างไร รบกวนอาจารย์ตอบให้ทราบด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง

    คำตอบ
    ที่คุณบอกว่าเขาทำอะไร ๆ แบบชาวบ้าน ๆ น่ะ ที่จริงคุณเองก็ทำแบบชาวบ้าน ๆ  การยักย้ายถ่ายเทอย่างที่กำลังทำอยู่นี้ ถึงวันหนึ่งคุณจะกลายเป็นลูกหนี้ค่ารถไม่มีจบสิ้น   การเอารถไปให้เต๊นท์รถขายให้น่ะ ต้องเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ทำให้ฟรี ๆ เขาต้องคิดค่านายหน้า ค่าใช้จ่าย มิฉะนั้นเขาจะอยู่ได้อย่างไร คุณคิดอย่างชาวบ้าน ๆ ว่าเขาคงจะทำให้ฟรี ซึ่งไม่มีหรอก คุณไม่ได้ถามเขาเองว่าเขาจะคิดค่านายหน้าเท่าไร  เงินที่เขาคิดจากคุณนั้น ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไร เพราะถึงอย่างไรก็ต้องจ่ายให้เขา และเมื่อคุณยังเป็นหนี้เขาอยู่ พอคุณได้เงินมาถึงจะรถคนละคันเขาก็หักเอามาชำระหนี้ได้   ข้อสำคัญ ที่เขาหักเงินมาชำระหนี้นั้น หนี้นั้นจะหมดหรือไม่ ไม่ใช่ว่าพอเขาหักเงินไปแล้ว คุณก็ยังเป็นหนี้บริษัทไฟแนนซ์ ที่คุณกู้เงินเขามาอยู่ดี การจับแพะชนแกะโดยไม่รู้ว่าความผูกพันตามกฎหมาย(ตามสัญญา)ที่ทำไว้กับใครต่อใครมีอยู่อย่างไรนั้น น่าเป็นห่วงนัก เพราะเมื่อเป็นหนี้เขานั้น หนี้นั้นจะหมดได้ก็ต่อเมื่อได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ ไม่ใช่ชำระให้ใครก็ได้โดยนึกว่าเขาจะเอาไปชำระให้  
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    18 มิถุนายน 2553