MeechaiThailand.com

ความคิดเสรีของมีชัย

เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว

เรื่องสั้น

จดหมายถึงนาย

	นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
	การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
	ค่าส่วนกลาง
	ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
	ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด


	ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม

ปิดหน้าต่างนี้

คำถามที่	หัวข้อคำถาม	โดย	วันที่
040428	รถยนต์ชนกับมอเตอร์ไซค์	ญาณกร	1 มิถุนายน 2553

คำถาม

รถยนต์ชนกับมอเตอร์ไซค์
สวัสดีค่ะ มีเคสอยากรบกนช่วยแนะนำด้วยค่ะ

เมื่อวันที่ 28 พค. ที่ผ่านมา ดิฉันขับรถมาทำธุระแถวบ้าน ซึ่งตรงนั้นเป็นถนนสองเลนสวน โดยมีพื้นที่จอดรถสองข้างทางค่อนข้างกว้างค่ะ ตอนนั้นดิฉันกำลังเตรียมตัวกลับรถเพื่อที่จะกลับบ้าน โดยขับเลียบข้างทางพร้อมเปิดไฟเลี้ยวขวา ดิฉันมองทางขวาไม่มีรถ ทางซ้ายรถยังมาไม่ถึง ก็เลยเคลื่อนตัวออกเพื่อกลับรถค่ะ พอถึงจังหวะที่รถกำลังกลับตัวกลางถนน ก็มีมอเตอร์ไซค์คันนึงขับมาค่อนข้าวเร็วจากทางเดียวกับดิฉันชนกันบริเวณ ประตูคนขับพอดีค่ะ คนขับเป็นเด็กอายุ 13 ปีเท่านั้น คนซ้อนเป็นเด็กอยู่ ป.4 ซึ่งไม่เป็นอะไร เลยส่งคนขับไปรพ. อาการมือเอ็นฉีกเพราะโดนกลางจกบาด คางแตก กระดูกไหล่ร้าว ซึ่งค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ทางบ้านของเด็กไม่มีเงินออกค่ะ แล้วรพ. ไม่ยอมให้การรักษาหากไม่มีเงินมัดจำ 20,000 บาทก่อน ซึ่งพรบ. มอไซค์คันดังกล่าวก็ไม่มี ทางดิฉันจึงตกลงออกมัดจำให้ก่อน เพราะต้องการรักษาเด็ก โดยที่คุยกันไว้ว่าหลังจากเคลียร์คดีแล้ว ค่าใช้จ่ายค่อยว่ากัน

ดิฉันโทรเรียกประกัน (ประกันชั้น 1) มาดู และทางตำรวจก็มาสืบสวนคดีค่ะ ทางตำรวจแจ้งเบื้องต้นว่า มองได้สองแบบ แบบแรกคือ เด็กตั้งใจขับปาดหน้า แต่ปาดไม่พ้น กับเด็กตั้งใจจะหักหลับ แต่หลบไม่พ้นค่ะ ซึ่งอย่างไรก็ตามดิฉันถือว่าขับรถโดยประมาท เพราะกลับรถ โดยทางประกันพยายามต่อรองในลักษณะที่ว่า เป็นการชนที่เกิดขึ้นอีกเลนนึงแล้ว (ชนที่เลนตรงข้าม เป็นเลนสวนค่ะ) ไม่ใช่เลนที่ขับมา ดังนั้นเราไม่น่าจะผิดฝ่ายเดียวค่ะ (คือตอนนั้นดิฉัน คิดอะไรไม่อกเลย คือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดรึเปล่า เพราะก่อนออกรถมั่นใจว่าดูซ้ายดูขวาแล้ว ยิ่งถนนตรงนั้น พอโล่งๆ เด็กมอไซค์ชอบซิ่งกันด้วยค่ะ เพราะเป็นทางตรง) ดิฉันเลยเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจ พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้ค่ะ

วันต่อ มา (30 พค) ดิฉันไปเยี่ยมผู้ป่วย ซึ่งคุยกับแม่ของเด็กเรื่องนี้ทำนองที่ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการชี้คดีว่าใครผิดใครถูก เรื่องค่าเสียหายต่างๆ คงยังไม่สามารถตกลงกันได้ตอนนี้ เพราะต้องรอให้เด็กให้ปากคำก่อน ถึงจะให้ตำรวจเป็นผู้ระบุได้ และให้เด็กรักษาตัวตามที่คุณหมอแนะนำ (ทำ CT Scan ผ่าตัดต่อเอ็น ดามหัวไหล่ และนอนที่รพ. ประมาณ 4-5 วัน) ซึ่งทางรพ. ประเมินค่าใช้จ่ายว่า น่าจะไม่เกิน 20,000 บาท ที่ได้ให้ค่ามัดจำไว้

แต่ พอมาเมื่อวาน (31 พค.) ทางประกันโทรมาแจ้งว่า เด็กต้องการออกจากรพ. แล้วรพ. แจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาทางประกันอยู่ที่ 70,000 บาท ดิฉันเลยแจ้งประกันตรามความจริงว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการตกลงอะไรทั้งสิ้น รอให้เด็กให้ปากคำก่อน ซึ่งแปลว่าคงต้องให้ทางเด็กสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อนค่ะ แต่ทีนี้ทางบ้านเด็กอ้างว่าไม่มีเงิน ทางดิฉัน (คุณพ่อ) จึงแนะนำให้คุณแม่ของเด็กไปคุยกับตำรวจเรื่องนี้ค่ะ ซึ่งทางคุณตำรวจนัดให้ดิฉันมาพบอีกทีวันพรุ่งนี้เพื่อเจรจาค่ะ ทั้งนี้ ทางตำรวจแจ้งให้ทราบเบื้องต้นว่า เด็กที่ซ้อนมอไซค์คันดังกล่าว ให้การไม่ตรงกับดิฉันค่ะ

คำถามคือ
- ในกรณี้อย่างนี้ ถือว่าดิฉันเสียเปรียบเต็มๆ หรือเป็นความผิดร่วมได้คะ? เพราะตอนกลับรถ ดิฉันมองแล้วมั่วใจว่า ไม่มีรถมาแน่ๆ ประกอบกับตอนเกิดเหตุ มีสายตรวจขับผ่าน เล่าให้ฟังว่า เด็กกลุ่มนี้เป็นกลุ่มซิ่ง ชอบซิ่ง แซงปาดหน้ารถเป็นประจำค่ะ
- ตอนนี้เด็กไม่สามารถให้ปากคำได้ เพราะทางรพ. ไม่ให้ออก เนื่องจากไม่ชำระเงิน 70,000 บาทค่ะ ซึ่งเงินส่วนนี้ควรจะเป็นฝ่ายใดออกก่อนคะ? แถมจำนวนเงินสูงกว่าที่คุยกันกับรพ. อีก ดิฉันควรทำอย่างไรดี?
- ดิฉันควรทำอย่างไรเป็นขั้นต่อไป เพื่อเป็นการจบเรื่องราวดังกล่าวได้บ้างคะ? ดิฉันไม่อยากให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นมาถ้าไม่จำเป็น

ตอน นี้ดิฉันรู้สึกลำบากใจค่ะ ทางเด็กเงินก็ไม่มี พรบ.รถก็ไม่มี ใบขับขี่ก็ไม่มี บัตรประชาชนก็ไม่มี ค่าใช้จ่ายทั้งหมด เบื้องต้นจึงตกมาทางดิฉัน (ประกันไม่จ่ายให้) โดยตอนแรกคุยกับรพ. แล้วว่าค่ารักษาประมาณ 20,000 บาท ซึ่งคุยกับคุณพ่อไว้ว่า หากทางเด็กไม่สามารถจ่ายได้ ก็จะออกค่ารักษาให้ แต่กลายเป็นค่ารักษาจริงแพงกว่านั้นมาก (ทางรพ. ก็ไม่ได้แจ้งอะไรทั้งสิ้น) จะออกให้ทั้งหมดก็กระไรอยู่ เพราะลึกๆ แล้วดิฉันมองว่าเป็นความผิดร่วมกันค่ะ (แต่ไม่รู้ว่าทางเด็กจะให้การว่าไง เพราะระยะเวลาให้ปากคำกับวันที่เกิดเหตุ ห่างกันมาก อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้) ซึ่งตอนนี้เด็กไม่สามารถให้ปากคำใดๆ ได้เลยทั้งสิ้น ถ้าไม่จ่ายเงินให้กับทางรพ. ค่ะ

รบกวนด้วยค่ะ
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

คำตอบ

เมื่อเหตุเกิดโดยไม่มีใครเห็นเป็นพยานได้ ก็คงเหลือแต่คุณกับเด็กสองคนนั้นเท่านั้นที่จะรู้เห็นเหตุการ เมื่อทางฝ่ายเด็กมีสองคน คุณก็อยู่ในฐานะเสียเปรียบอยู่บ้าง การจะพิสูจน์ว่าเด็กประมาท ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ทางที่ดีถ้าไม่ต้องการเป็นคดี ก็อาจให้ตำรวจไกล่เกลี่ยกับพ่อแม่ของเด็ก โดยยอมจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้เขาไป แต่ควรต้องทำความตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ในความตกลงนั้น ต้องไม่ระบุว่าคุณเป็นฝ่ายผิด ควรระบุว่าคุณยินดีจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้เพื่อมนุษยธรรมและต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจเอาเรื่องต่อกัน

มีชัย ฤชุพันธุ์
1 มิถุนายน 2553