สามีติดคุกและถูกศาลสั่งปรับหลักประกันเนื่องจากไม่ได้ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ดิฉันเอาโฉนดไปประกันตัวสามีระหว่างอุทธรณ์ ที่ศาล...... เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2553 ได้รับหมายศาลให้สามี(ซึ่งเป็นจำเลยและเป็นผู้ค้ำประกันด้วยเหมือนกัน โดยใช้โฉนดและเงินสด) ไปชำระค่าปรับที่ศาล..... ซึ่ง ถามผู้ส่งหมายศาลก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าค่าปรับอะไร เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2553 จึงได้โทรศัพท์ไปศาล... เจ้าหน้าที่ศาลบอกว่าสามีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 21 เมษายน และได้แจ้งจำเลยแล้วโดยวิธีปิดหมาย และทราบว่าศาลออกหมายจับแล้วและสั่งปรับหลักประกันแล้ว
เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2553 ดิฉันและสามีได้ไปที่ศาล...เพื่อมอบตัวและฟังคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 2 ปี 6 เดือน และสามีไม่ฎีกา เข้าเรือนจำไปแล้ว ทนายได้แถลงขอให้ศาลงดค่าปรับ ศาลสั่งให้ปรับ เพราะบอกว่าจำเลยผิดสัญญาไม่ไปฟังคำพิพากษา
สรุปว่าหลักประกันเป็นโฉนด 2 ฉบับและเงินสด 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 500,000 บาท มีโอกาสได้คืนหรือไม่
ไม่ทราบจริงๆเรื่องที่ศาลนัดให้ไปฟังคำพิพากษา
มีบ้านและมีชื่อที่อยู่ที่อำเภอ .. หนองบัวฯ... แต่ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ย้ายไปทำงานที่อำเภอ บ้าน..ฯ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2553 เป็นไปได้ว่าบางวัน(กลางวัน)ไม่ได้อยู่บ้าน แต่ก็กลับมาบ้านอย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีหมายศาลก็ต้องเห็น เพื่อนบ้านก็มี และเป็นคนที่คนในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ รู้จักดี ไม่ทำตัวหลบซ่อน ไม่ทราบว่าพลาดหมายศาลได้อย่างไร และดิฉัน ในฐานะนายประกันก็ไม่เคยได้รับแจ้งให้นำผู้ต้องหาไปฟังคำพิพาษาเลย และหนังสือแจ้งให้จำเลย (สามี) ไปชำระค่าปรับในครั้งนี้ (ครั้งที่ได้ไปฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 4 พ.ค.53นี้) ก็มีหนังสือแจ้งเพียงจำเลย(สามี ) ทั้งที่มีชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน
ทนายความได้แถลงต่อศาลว่า ทราบว่าศาลนัดฟังคำพิพากษา 21 เมษายน 2553 แต่หลงลืมไม่ได้แจ้งลูกความ
เนื่องจากไม่เคยหนี ไม่เคยหลบซ่อน มีชีวิตอยู่อย่างปกติ พร้อมที่จะไปฟังคำพิพากษา
สามีพร้อมสำหรับติดคุก แต่ยื่นอุทธรณ์เพื่อใช้เวลาสำหรับจัดการสิ่งต่างๆ
ดิฉันมีทางออกสำหรับเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้ได้โฉนดคืน
ขอบพระคุณค่ะ |