ผมกับเพื่อนได้รวมกันตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดเพื่อทำธุรกิจด้วยกันตั้งแต่ปี 2544 โดยทั้งผมและเพื่อนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการทั้งสองคน และมีแม่ของผมเป็นหุ้นส่วนด้วยอีก1 ราย แต่ทั้งผมและเพื่อนนั้นเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด ส่วนแม่ผมเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ

ต่อมาหุ้นส่วนของผมได้ไปตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดกับเพื่อนเมื่อปี2547 ในช่วงแรกดำเนินกิจการลักษณะอย่างอื่น แต่มาภายหลังได้ดำเนินกิจการในลักษณะเดียวกับห้างฯของผม ซึ่งผมไม่เคยเห็นดีด้วยเลยแต่จำต้องทนเพราะเขาเป็นฝ่าย sale ซึ่งเป็นตัวทำเงินให้ห้าง ส่วนผมนั้นดูแลบริหารด้านอื่นๆยกเว้นงานขาย

ต่อมาได้มีการถ่ายเท Know how ข้อมูลผู้ขาย ข้อมูลสินค้า และข้อมูลลูกกค้าให้แก่อีกห้างผ่านทางหุ้นส่วนของผม มีการเปิดบิลขายให้กัน(เพื่อให้อีกห้างฯนำสินค้าไปขายต่อ เนื่องจากเครดิตทางนั้นไม่ดี ไม่มีผู้ขายรายใดยอมขายสินค้าให้)ในราคาถูกกว่าขายให้ลูกค้ารายอื่นๆ

ตัวอย่าง เช่น ยอดบิลขายปีที่แล้ว 2ล้านบาทมีการเปิดบิลขายให้กับอีกห้างฯ ซึ่งมีผลทำให้เป็นยอดขายที่สูงที่สุดของลูกหนี้ที่เกิดขึ้น เทียบกับลูกหนี้ในลำดับที่สองมียอดซื้อเพียง 9 แสนบาท ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังค้างชำระหนี้ของห้างผมอยู่(ได้ตั้งฟ้องศาลไปแล้ว โดยจำเลยขอผ่อนส่งส่วนที่เหลือ)

ผมต้องการที่จะให้บทเรียนแก่หุ้นส่วนบ้าง แต่จากการปรึกษาทนาย ทนายแจ้งว่าสามารถเอาผิดได้ ซึ่งผมยังไม่แน่ใจนักเพราะ

ตามมาตรา 1038
อายุความผิดที่เกิดขึ้นบังคับได้แค่ 1 ปี แสดงว่าผมไม่สามารถเอาผิดหุ้นส่วนได้เลยใช่ไหมครับ

เหตุที่ความผิดมีอายุแค่ 1 ปี อ้างอิงจาก ม.1038

มาตรา 1038 ห้ามมิให้ผู้เป็นหุ้นส่วนประกอบกิจการอย่างหนึ่ง อย่างใดซึ่งมีสภาพดุจเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของ ห้างหุ้นส่วนนั้น ไม่ว่าทำเพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์ผู้อื่นโดย มิได้รับความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่น ๆ
ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดทำการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ มาตรานี้ ไซร้ ผู้ เป็นหุ้นส่วนคนอื่น ๆ ชอบที่จะเรียกเอาผลกำไรซึ่งผู้นั้นหาได้ทั้งหมด หรือเรียกเอาค่าสินไหมทดแทน เพื่อการที่ห้างหุ้นส่วนได้รับความ เสียหายเพราะเหตุนั้น แต่ท่านห้ามมิให้ฟ้องเรียกเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่ง นับแต่วันทำการฝ่าฝืน

หุ้นส่วนของห้างผม มีชื่อเป็นแค่หุ้นส่วนธรรมดา (ห้างฯนั้นมีทั้งหมด 2 หุ้น) ของอีกห้างฯนะครับ หุ้นส่วนธรรมดาที่เขาอ้างนั้นคือหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบในอีกห้าง และไม่ได้มีอำนาจลงนามใดๆ

ประเด็นที่หลุดข้อกล่าวหาได้คือ เขาอ้างได้ว่าเป็นแค่หุ้นส่วนธรรมดา ไม่ได้มีอำนาจรับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องในการดำเนินกิจการด้วย (ซึ่งเขาเคยใช้อ้างกับผมมาเช่นนี้)

1.หุ้นส่วนคนดังกล่าวอยู่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้(ห้างฯที่หุ้นกับผม) เป็นไปในรูปแบบของหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบเช่นเดียวกับผม
2.หุ้นส่วนคนดังกล่าวอยู่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น เป็นไปในรูปแบบของหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ
3.ห้างอีกห้างที่ได้อ้างมา ได้ประกอบกิจการที่เป็นลักษณะดุจเดียวกันเกินระยะเวลา 1 ปี (ประมาณ 3 ปีแล้ว)

นอกจากนี้วัตถุประสงค์ในการตั้งห้างที่เขาแอบไปทำกันนั้นก็ แจ้งไว้ไม่ตรงกับที่ประกอบจริง คือ ตอนแรกประกอบการค้าอีกอย่างหนึ่ง ต่อมาได้เห็นว่ากิจการของผมได้ผลกำไรดี จึงได้ทำเลียบแบบ (ที่ผมทราบเพราะแอบเห็นในสำเนาหนังสือบรับรอง)

ขอบพระคุณท่านมีชัย ล่วงหน้านะครับ