จำเลยขอประนีประนอมค่ะ
เรียน อ.มีชัย เมื่อปี48เคยปรึกษาคดีอ.หนูปฏิบัตตามและปี51ศาลตัดสินจำคุกจำเลยฐานฉ้อโกง 10 ปี ล่าสุดวันที่ 15/03/53 ศาลอุทรณ์ยืน ขอบคุณอ.มากๆค่ะ แต่มีคำถามเพิ่ม ฝ่ายจำเลยขอประนีประนอมค่ะ ยอมชำระกึ่งหนึ่งและที่เหลือผ่อนอีก 8 ปี รบกวนเรียนถาม อ.
1. ข้อความในเอกสารประนีประนอมของศาลตามข้างล่าง รบกวน อ.ด้วยค่ะว่าครอบคลุมหรือยังเพราะฝ่ายจำเลยเล่ห์เยอะมากค่ะ(หนูไปเอามาจากตัวอย่างในเนทมารวมๆกัน ทนายหนูคงยุ่งก็ไม่ค่อยได้ช่วยคิดเท่าไหร่ค่ะ) หนูกลัวว่าเงื่อนไขต่างๆที่เรากำหนดจะทำให้เขาหลุดอีกไม่สามารถฟ้องบังคับคดีได้ เหมือนหนูจะโดนโกงรอบสองอีกค่ะ มีจุดไหนที่หนูยังปิดไม่สนิทบ้าง อย่างไร
ข้อ1. จำเลยตกลงยอมชำระหนี้ให้แก่โจทก์จำนวน xxxx.- บาท(xxxxบาทถ้วน) ให้แก่โจทก์ โดยจำเลยชำระให้แก่โจทก์ในวันทำยอมนี้เป็นจำนวนเงิน xxxx.- (xxxxบาทถ้วน) ส่วนที่เหลืออีกจำนวน xxxx.-บาท(xxxxบาทถ้วน) จำเลยขอผ่อนชำระในอัตราอย่างน้อยเดือนละ xxxx.-บาท(xxxxบาท) โดยชำระงวดแรกภายในวันที่ 25 พฤษภาคม 2553 งวดต่อไปทุกๆวันที่ 25 ของเดือนถัดไปจนกว่าจะชำระให้เสร็จสิ้นแก่โจทก์ โดยชำระผ่านบัญชีธนาคาร.......สาขา.......หมายเลข..........................หากจำเลยผิดนัดงวดใดงวดหนึ่ง ให้ถือว่าผิดนัดในส่วนที่ค้างชำระทั้งหมด ยินยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ในยอดหนี้ตามทุนทรัพย์ส่วนที่ค้างชำระ พร้อมทั้งยินยอมเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของเงินต้นที่ค้างชำระนับแต่วันที่ผิดนัดชำระเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้เสร็จสิ้นแก่โจทก์
ข้อ2. โจทก์ไม่ติดใจดำเนินคดีนี้เอากับจำเลยอีกต่อไป โจทก์พอใจกับการชำระหนี้ตามข้อ 1. และโจทก์ตกลงที่จะถอนฟ้องคดีอาญาให้กับจำเลย
ข้อ3.ในการชำระหนี้ตามข้อ1. นางสาว.........และนาง....... ได้ขอผูกพันตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้แก่โจทก์ตามข้อ 1. โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกับจำเลย หากมีการผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ จำเลยและผู้ค้ำประกันจะชำระหนี้ทั้งหมดให้แก่โจทก์ทันที หากไม่ชำระก็ยินยอมให้โจทก์ฟ้องร้องบังคับดีได้ทันที และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีอีกโสตหนึ่งด้วย
2. หนูต้องทำสัญญาค้ำประกันต่างหากอีกไหมคะเพื่อไม่ให้ญาติและจำเลยหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ได้ค่ะ เพราะเขาค้ำประกันโดยไม่ยอมนำหลักทรัพย์มาค้ำค่ะ แต่หนูพอจะทราบว่าผู้ค้ำมีหลักทรัพย์ค่ะ และผู้ค้ำจะชำระจากเงินบำนาญของเขาค่ะ
|