เรียนท่านมีชัยครับ
เรื่องมีอยู่ว่าหลานสาวกระผม ได้แต่งงาน แล้วไปอยู่กับครอบครัวสามี จากนั้นมีลูกด้วยกัน ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน สามีจะเป็นคนโมโหร้าย มักทำร้ายร่างกายเป็นประจำ แม้กระทั่งหลังคลอด ไม่ถึงสองเดือนก็ยังมิวายที่จะโดนทำร้าย เป็นเหตุให้ทนไม่ไหว จึงหนีออกมา ... หลังจากนั้นจะพยายามไปเยี่ยมลูก แต่ก็ถูกกีดกันจากครอบครัวสามีไม่ให้พบลูก ด้วยความที่คิดถึงลูกและอยากได้ลูกคืน จึงไปสอบถามโรงพยาบาลที่คลอด ว่าเด็กจะมา โรงพยาบาลเมื่อไร? เมือรู้วันที่แน่นอน หลานกระผมจึงได้ชวนพี่สาว และป้า รวม ๓ คน ไปที่ รพ. แล้วเกิดการแย่งเด็กขึ้นที่ รพ. ซึ่งมีการฉุดกระชาก กันตามสถานการณ์ โดยฝ่ายแม่สามีมากัน ๒ คน และผลปรากฏว่า หลานสาวได้ลูกมา และหลังจากนั้นได้นำ ทอง ที่ติดเด็กมาไปคืน ที่สถานีตำรวจ ไว้เป็นพยาน
เรื่องไม่จบแค่นั้น ผ่านไปได้ประมาณสามวัน แม่สามี ซึ่งมีอายุประมาณ ๔๕ ปี ได้ไปโรงพยาบาล และบอกว่าตัวเองได้แท้งลูก เรื่องราวเหมือนจะเงียบไป แต่ไม่ใช่! เพราะหลังจากนั้นประมาณ สามเดือน ตำรวจได้นำหมายจับ เพื่อจะไปจับหลานสาวและพวก โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ทำร้ายร่างกายจนแสนสาหัสจนเป็นเหตุให้แท้งลูก" เรืองขณะนี้ปรากฏว่า อัยการส่งฟ้องศาล ข้าพเจ้ามีความสงสัยดังนี้
๑. ทำไมตำรวจออกหมายจับ โดยไม่มีหมายเรียก
๒. ในสำนวนเหมือนหมอจะเขียนไว้ว่าโดนชกต่อย จนเป็นเหตุให้แท้งลูก ซึ่งเหมือนจะท้องได้เพียงสองเดือน และแม่สามีจะมีการไปขูดมดลูกเป็นประจำ
๓. ด้วยว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา ส่วนครอบครัวสามีเป็นคนมีฐานะพอสมควร มีทนายเป็นที่ปรึกษา และเหมือนจะโดนแกล้ง จึงไม่รู้ว่าจะพึ่งพาใคร อยากจะทราบแนวทางในการสู้คดีครับ และมีทางที่จะชนะคดีหรือเปล่าครับ
1.-2. การออกหมายจับนั้นจะมีการออกหมายเรียกก่อนหรือไม่ก็ได้ เพราะศาลเป็นคนออกหมาย
3. ก็คงต้องไปหาทนายความเตรียมไว้สู้คดี ส่วนจะชนะหรือแพ้ ตอบไม่ได้หรอก เพราะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและการนำสืบพยานในศาล