สวัสดีครับ...เมื่อต้นเดือน มี.ค. ผมเช่าห้องพักอยู่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง จ่ายค่าเช่าเดือนละ 3000 บาท เจ้าของห้องเช่าคิดค่าน้ำหน่วยละ 20 บาท/เดือน ค่าไฟหน่วยละ 5.5 บาท/เดือน และให้ผมจ่ายค่าประกันของเสียหาย 2000 บาท และจะคืนค่าประกันของเสียหายให้เมื่อผมย้ายออก แต่เจ้าของห้องเช่าบอกว่าต้องอยู่ให้ครบ 4 เดือน ทั้งหมดคุยกันด้วยวาจา ไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ผมได้ใบเสร็จรับเงินจากเจ้าของห้องเช่าเป็นจำนวนเงินรวม 5000 บาทด้วยครับ ผมเรียนถามดังนี้ครับ
1. ตามกฎหมายคิดค่าไฟ ค่าน้ำหน่วยละเท่าไหร่ครับ ถ้าเจ้าของห้องเช่าคิดเกิน เขาผิดหรือไม่ครับ
2. ถ้าผมอยู่ไม่ครบ 4 เดือนแล้วผมจำเป็นต้องย้ายออก แล้วเขาไม่ยอมคืนเงินประกันของเสียหายให้ ทั้ง ๆ ที่สิ่งของในห้องก็ไม่มีอะไรเสียหาย เขาเอาเปรียบผู้เช่าหรือไม่ แล้วเอาผิดเขาได้ไหมครับ
3. ตามข้อ 1 ผมเอาผิดกับเจ้าของห้องเช่าได้หรือไม่ครับ
4. ตอนนี้ผมอยู่ในตัวจังหวัด ยโสธร หน่วยงานในที่ดูแล ควบคุมธุรกิจหอพักครับ
ขอบคุณครับ
1. กฎหมายไม่ได้กำหนดค่าน้ำค่าไฟ คนผลิตและคนขาย คือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้านครหลวงเป็นคนกำหนด เมื่อเขาขายแล้ว คนซื้อจากเขาจะไปขายต่อในราคาเท่าไร ก็ไม่มีกฎหมายควบคุม เพราะฉะนั้นจะซื้อขายกันเท่าไรก็สุดแต่จะตกลงกัน
2. สุดแต่ว่าจะตกลงกันอย่างไร ถ้าตามสัญญาตกลงไว้อย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ถ้าถึงเวลาที่คุณออกและไม่ได้ทำความเสียหายอะไร คุณก็มีสิทธิเงินเอาเงินมัดจำคืนได้ ถ้าเขาไม่คืนคุณก็มีสิทธิฟ้องเรียกคืนได้
3. จะเอาผิดในเรื่องอะไรล่ะ
4. ไม่แน่ใจว่าเป็นกระทรวงทรัพยากรมนุษย์หรือกระทรวงมหาดไทย ลองสอบถามที่อำเภอใกล้บ้านดูเถอะ