เรียน ท่านอาจารย์มีชัยที่เคารพยิ่ง

ขอกราบขอบพระคุณที่ท่านกรุณาตอบคำถามที่แล้ว อันเป็นประโยชน์อย่างมาก ขอเรียนถามเพิ่มเติมค่ะ

พี่สาวดิฉันพาป้าไปรักษาที่คลีนิคแพทย์ด้วยโรคหลงลืม 3 ครั้ง คือ ก.พ. มี.ค. และ เม.ย. 51 จากนั้นไม่พาไปรักษาต่อเนื่อง และหลอกป้าไปทำนิติกรรมขายที่ดินให้พี่สาวดิฉัน ในราคา 1 ล้านบาท ที่ดินราคา 5.55 ล้านบาทในเดือน พ.ย. 51 โดยป้าไม่ได้รับเงินค่าทีดินแต่อย่างใด ช่วงเวลานั้นแม่ดิฉันกลับไปเลี้ยงหลานพบว่าป้าป่วยด้วยโรคหลงลืม แม่อยู่ที่นั่นจนถึงกลางปี 52 แต่แม่ไม่รู้ว่าป้าถูกหลอกไปขายที่ดิน เพราะตอนพี่สาวและสามีพี่สาวมารับป้า ป้านั่งคุยอยู่กับแม่ พี่สาวเดินมาบอกว่าจะพาไปเป็นพยานประเมินราคาที่ดินแล้วหลอกป้าให้ลงชื่อในหนังสือขายที่ดินโดยอ้างว่าเป็นแบบประเมินราคาที่ดิน  หลังจากหลอกป้าไปทำนิติกรรมแล้ว พี่สาวได้พาป้าไปรักษาอีก 2 ครั้งในปีถัดไป มิ.ย. 52 ที่ต่างคลีนิคกัน   ด้วยโรคหลงลืม ดิฉันจึงพาป้าไปขอใบรับรองแพทย์ที่คลีนิคที่ป้าไปรักษาตัวก่อนถูกหลอกไปทำนิติกรรม ก่อนให้ใบรับรองแพทย์หมอพูดว่าจะเอาไปล้มเลิกนิติกรรมหรือเปล่า งานใหญ่เลยนะเนี่ย ไม่เอาด้วยนะ แล้วหมอลงความเห็นว่าเป็นโรคหลงลืม สมองเสื่อม (DEMENTIA) และระบุชื่อตัวยาในใบรับรองแพทย์ ซึ่งเป็นยารักษาโรคหลงลืม สมองเสื่อม  ดิฉันพาป้าไปขอใบรับรองแพทย์ที่คลีนิคที่สอง หมอให้ถ่ายเอกสารประวัติการรักษาและประทับตราคลีนิคลงในประวัติรักษา ซึ่งตรงกับอาการที่ป้าเป็น และยาที่ให้เป็นยารักษา DIMENTIA หลังจากแจ้งความคดีฉ้อโกงที่ดินแล้ว ดิฉันได้รับป้ามาพักที่กทม. และพาป้าไปรักษาที่คลีนิคศูนย์แพทย์พัฒนา หมอได้ออกใบรับรองแพทย์ และประวัติการรักษาป้าว่า หลงลืม (DEMENTIA in Alzimer's disease)  คราวนี้ดิฉันมีความจำเป็นต้องใช้ประวัติการรักษาจากคลีนิคแห่งแรกเพื่อประกอบคดีอาญา ป้าได้เขียนมอบอำนาจให้พี่ชายดิฉันไปขอประวัติการรักษาเพื่อรักษาต่อเนื่องที่รพ.จุฬา เนื่องจากทางโรงพยายาลขอประวัติการรักษาด้วย หมอที่คลีนิคแรก บอกว่า ประวัติการรักษาไม่มีหรอก คนไข้มาด้วยอาการมึนงง จะเอาประวัติการรักษาไปประกอบคดีใช่มั้ย ถ้าต้องการประวัติการรักษาต้องให้โรงพยาบาลที่จะไปรักษาทำหนังสือขอมา พี่ชายไปพบหมออีกครั้งพร้อมหนังสือขอประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลจุฬา หมอให้รอนานมากจนคนที่มาที่หลังประมาณ 10 กว่าคนได้แซงคิวไปแล้ว เมื่อพี่ชายพบหมอ หมอได้หยิบกระดาษที่ไม่ใช่ประวัติการรักษามาจากในโต๊ะหมอ แล้วเขียนใส่ในกระดาษตอบแพทย์จากจุฬาว่าญาติแจ้งว่ามึนงง หลงลืม และเขียนชื่อตัวยาคนละชนิดกับในใบรับรองแพทย์ ซึ่ง ดิฉัน search แล้วว่าไม่ใช่ยารักษาโรคหลงลืม ดิฉันเข้าใจว่าจำเลยและทนายได้ไปพบหมอแล้ว ดิฉันขอเรียนถามดังนี้

1. ดิฉันจะทำอย่างไรในชั้นศาลเมื่อประวัติการรักษาไม่สอดคล้องกับใบรับรองแพทย์ เพราะใบรับรองแพทย์และประวัติการรักษาก่อนทำนิติกรรมมีความสำคัญมาก  ดิฉันเกรงว่าหมอจะนำประวัติการรักษาอันเป็นเท็จขึ้นสู่ศาล พฤติกรรมของหมอไม่ชอบมาพากลเลย สามารถแจ้งความเป็นหลักฐานให้ตำรวจลงบันทีกประจำวันได้หรือไม่ หรือร้องเรียนขอความเป็นธรรมได้ที่ไหนคะ หรือมีวิธีการอื่นใด ขอคำแนะนำด้วยค่ะท่านอาจารย์

2. ดิฉันสามารถนำประวัติการรักษาจากคลีนิคที่สอง คลีนิคศูนย์แพทย์พัฒนา และรพ.จุฬา มาประกอบว่าป้ามีอาการหลงลืม สมองเสื่อม ได้หรือไม่ ศาลท่านจะรับพิจารณาหรือไม่คะ

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจาย์เป็นอย่างสูงค่ะ

ณัฐิกา

1.  ถ้าฟ้องเป็นคดีแล้ว ก็ขอให้ศาลออกหมายเรียกเอกสารที่ต้องการได้

2. เมื่อยื่นอะไรไป ศาลท่านก็รับเสมอแหละ เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อคดีหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรื่องเดียวกับที่ฟ้องร้องหรือไม่

   การฟ้องคดีในศาลเป็นเรื่องทางเทคนิค จึงควรต้องปรึกษากับทนายความ ซึ่งเขาคงจะแนะนำข้อสงสัยต่าง ๆ ได้