เจ้าหนี้นำหนี้ตามคำพิพากษามาฟ้องล้มละลาย
เรียน อาจารย์
ผมขอถามอาจารย์ดังนี้ ครับ
-ธนาคาร อ. ฟ้องลูกหนี้คดีแพ่งยึดที่ดินขายทอดตลาด ได้ราคาไม่พอชำระหนี้ โดยศาลพิพากษา 17 กพ.42 คดีสามารถอุทธรณ์ได้ แต่ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์
-ธนาคาร อ. นำหนี้ที่เหลือ(เพราะยังชำระหนี้ไม่ครบ)ตาม 1. มาฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลาย เมื่อ 26 กพ.52 ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ชั่วคราว เมื่อ 1กพ.53
ขอเรียนถามอาจารย์ ดังนี้ครับ
1.ธนาคาร อ.ฟ้องให้ล้มละลายได้เพราะเหตุใด เนื่องจากหนี้เดิมขาดอายุความแล้ว และระยะเวลาบังคับคดี เกิน 10 ปี นับจากวันศาลมีคำพิพากษาแล้ว
2.ระหว่างที่ธนาคารฟ้องคดีแรกอยู่นั้น ลูกหนี้มีหนี้ที่ผ่อนชำระบ้านพร้อมที่ดินกับธนาคาร อ.อยู่ ซึ่งการผ่อนชำระยังดำเนินอยู่ แต่ธนาคารไม่ได้ขอให้ศาลยึดบ้านพร้อมที่ดินแปลงนี้ไปชำระหนี้ในคดีแรก คำถาม คือ ธนาคาร อ.จะขอให้ยึดบ้านพร้อมที่ดินแปลงนี้ มาชำระหนี้ในคดีแรก ได้หรือไม่ หรือหากธนาคารฟ้องเป็นคดีที่ 2 ธนาคาร อ.จะขอเงินส่วนที่เกินกว่าจำนวนหนี้จำนองในคดีหลังมาชำระในคดีล้มละลายได้หรือไม่
3.กรณีที่เกิดขึ้น ถือว่าธนาคาร อ.ดำเนินคดีเป็นการเอาเปรียบลูกหนี้หรือไม่ ที่ไม่ยอมยึดบ้านพร้อมที่ดินแปลงที่ 2 ในคดีแรก แต่ปล่อยให้ลูกหนี้ผ่อนชำระบ้านพร้อมที่ดินในแปลงที่ 2 เป็นเวลากว่า 10 ปี จนจำนวนหนี้ลดลงมาก เมื่อเวลาผ่านไปจนจะครบกำหนดระยะเวลาบังคับคดีแรกแล้ว จึงมาฟ้องเป็นคดีล้มละลาย เป็นการยืดอายุความของคดีแรกออกไป โดยที่ทำให้จำนวนดอกเบี้ยในคดีแรกเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ และเป็นเหตุให้ต้องถูกฟ้องล้มละลาย ถือเป็นกรณีที่ไม่สมควรสั่งให้ลูกหนี้ล้มละลายได้หรือไม่
อนึ่ง ที่ดินแปลงแรกจำนองกับธนาคาร อ.ที่ต่างจังหวัด(แต่โดยข้อเท็จจริงลูกหนี้คนนี้ถูกขอร้องให้เป็นคนซื้อแทนคนอื่น ลูกหนี้จึงไม่ได้ใส่ใจ เนื่องจากเห็นว่าเมื่อถูกยึดไปชำระหนี้ก็ไม่ใช่หนี้หรือทรัพย์สินของตัวเอง) บ้านและที่ดินแปลงที่ 2 จำนองธนาคาร อ.ใน กทม.(กรณีนี้เป็นหนี้ของตัวลูกหนี้เอง ที่ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย)
ขอกราบขอบพระคุณครับ ผมจะรอคำตอบครับ
ประเทศนี้ช่างโหดร้ายกับคนจนที่เป็นคนดีและเชื่อใจคนจริงๆ ประเทศจึงอาจจะมีคนดีลดลงๆ |