ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    039323 ปรึกษาคดีความอาญาเกศ23 กุมภาพันธ์ 2553

    คำถาม
    ปรึกษาคดีความอาญา

    เริ่มจากดิฉันเริ่มเข้างานในบริษัทประกันชีวิต แห่งหนึ่ง เดือนพฤาภาคม 2550 ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ธุรการ 
                 และในเดือนมกราคม 2551 ก็ด้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่การเงินแทนเจ้าหน้าที่การเงินเดิม 
               ทำหน้าที่ การเงินมาประมาณ 1 เดือน ก็มีหนังสือแต่งตั้งตำแหน่งมา จึงได้ทำหน้าที่การเงิน
                 หลังจากรับตำแหน่งมาไม่นาน ก็พบว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นในปีก่อนหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่การเงินคนเก่า และ ผู้จัดการสำนักงาน
                 แต่ตอนนั้นไม่กล้าจะปรึกษาใคร ว่าควรทำอย่างไร เพราะตนเองก็เป็พนักงานใหม่พึ่งเข้าบรรรจุงานได้ไม่นาน
                 ตลอดระยะเวลาที่ทำงานลำบากใจมาก เพราะในแต่ละวันทีปิดบัญชี ยอดเงินจะไม่ลงตัว และมีการทำเอกสารเงินกู้ และ เอกสารจ่ายตามเงื่อนไขของบริษัท
                 เพื่อจะมาปิดยอดให้ลงตัว โดยเจ้าหน้าที่การเงินคนเก่าจะเป็นคนเซ็นต์ลายเซ็นต์ของลูกค้า ดิฉันเซ็นผู้จ่ายเงิน และผู้จัดการเซ็นต์อนุมัติ  เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆหลายต่อหลายรายด้วยกัน
                 ซึ่งในบางวันมีทั้งการปลอมเอกสารและ มีการดึงเบี้ยจากตัวแทนเก็บไว้ แล้วเอาเงินส่วนนั้นมาจ่ายให้กับลูกค้ากรณีเช่น ลูกค้ารับเงินสมนาคุณ ก็เอาเอกสารตัวนั้นเข้าบัญชี
                 แต่ความเป็นจริงแล้ว ลูกค้ายังไม่ได้รับเงิน พอถึงวันที่ลูกค้ามารับเงิน ทางผู้จัดการสำนักงานก็จะนำเงินค่าเบี้ยมาจ่ายลูกค้าแทน และ ในบางครั้งลูกค้ามารับเงินครบกำหนดสัญญา
                 พอจะจ่ายเงินให้กับลูกค้าก็ปรากฎว่ากรมธรรม์ของลูกค้า ถูกนำมาทำเอกสารเงินกู้จำนวนค่อนข้างมาก พอถามผู้จัดการสำนักงานว่าลูกค้ามากู้เองรึป่าว
                 ทางผู้จัดการก็แจ้งกลับมาว่า เอกสารที่กู้เงินนั้นลูกค้าไม่ได้เป็นคนกู้ แต่เจ้าหน้าที่การเงินคนก่านำมาทำเงินกู้ แต่เงินกู้จำนวนนั้นดิฉันเองก็ไม่ทราบว่า ทั้งสองคนนั้นใครเป็นผู้เอาไปแล้วเอาไปใช้อะไร
                 จนกระทั้งรับหน้าที่มาเกือบครึ่งปี ปัญหาและเรื่องราวต่างๆยังไม่จบ ทางเจ้าหน้าที่การเงินคนเก่าก็ยังไม่นำเงินมาเคลียร์บัญชี เอกสารการปลอมเงินกู้ลูกค้า

    จนมีฝ่ายตรวจสอบของทางบริษัทเข้ามาตรวจสอบพบการทุจริต ที่เกิดขึ้น ดิฉันถูกสอบปากคำด้วย และได้เล่าความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ให้ทางเจ้าหน้าของฝ่ายตรวจสอบเพื่อบันทึกการสอบปากคำ
                 หลังจากนั้นดิฉันก็ถูกพ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทฐานให้ความร่วมมือ ในการทำทุจริต แล้วทางบริษัทก็ดำเนินการแจ้งความกับทางตำรวจ
                 ตำรวจส่งบนทึกปากคำและเอการที่เป็นหลักฐานให้ทางอัยการ ทั้งสองคนก็ไปรายงานตัวตลอดทุกนัดที่ทางอัยการออกหนังสือนัดหมาย
                 ส่วนดิฉันก็มาทำงานที่ใหม่ และขาดการติดต่อข่าวสารว่าเรื่องดำเนินมาถึงไหนแล้ว จนเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2552 ดิฉันได้รับหมายเรียกตัว
                 จากสถานีตำรวจภูธร ให้ไปรายงานตัว ในคดีความอาญา ฐานร่วมกันฉ้อโกงทัพย์ และ ปลอมแปลงเอกสารปลอม ในกรณีนี้ดิฉันควรทำอย่างไรบ้าง
                ตอนนี้เรื่องถึงสำนักงานอัยการแล้ว  ฉันต้องไปรายงานตัวตามนัด แล้วหลังจากนี้ ถ้าอัยการสั่งฟ้อง ต้องทำอยางไรบ้าง

               โทษในครั้งนี้จะถึงขั้นจำคุกไหม

                                                               รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ

                                                                            เกศ

     


     

    คำตอบ
    เมื่ออัยการหรือตำรวจนัดก็ต้องไปตามนัด เพราะฉะนั้นเขาจะออกหมายจับ และเมื่อจับแล้วเขาก็อาจไม่ให้ประกันตัว ส่วนที่ถามว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปนั้น คำแนะนำก็คือ รีบหาทนายความโดยเร็ว อย่านิ่งนอนใจ
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    23 กุมภาพันธ์ 2553