อยากเลิกรากับหุ้นส่วน
เรียนท่านมีชัย
ดิฉันมีปัญหาใหญ่อยากให้ท่านชี้ทางสว่างให้ค่ะ... เรื่องยาวมากแต่ดิฉันจะพยายามแจ้งจุดสำคัญค่ะ
นาย ก กับ นาย ข ซึ่งทั้งสองเป็นชาวต่างชาติตกลงในการร่วมทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวนหนึ่งเพื่อประกอบกิจการอย่างหนึ่ง(กู้จากนักลงทุนต่างชาติ) นาย ก มีบริษัท เอ ร่วมกับ นาง ค แล้วก็นาย ข ก็มีบริษัท บี ร่วมกับ นาง ง แล้วทั้งสองคนไม่เคยจัดตั้งบริษัทใหม่ร่วมกัน
ด้วยความเชื่อใจนาย ก ให้นาย ข เป็นผู้จัดการเงินจำนวนที่กู้มาทั้งหมด และทุกครั้งที่ถามหาใบเสร็จรับเงินหรือขอให้ชี้แจงการใช้เงินจำนวนที่กู้มาดังกล่าว นาย ข หลีกเลี่ยง หรือสร้างสถานการณ์อย่างอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
นาย ก เข้าใจว่านาย ข นำไปเข้าบัญชีบริษัทตนเอง ตอนนี้นาย ก เป็นกรรมการของบริษัท บี แล้วสามารถไปขอสเตทเมนท์ย้อนหลังเพื่อการสอบสวนได้มั้ยคะ เป็นวิธีการที่ถูกต้องรึเปล่า
เมือกิจการเริ่มดำเนินการ ร้านนาย ก อยู่ต้นทาง นาย ก จึงเป็นผู้รับเงินมัดจำจากลูกค้า ร้านนาย ข อยู่ปลายทาง นาย ข จึงเป็ผู้เรียกเก็บส่วนที่ลูกค้าค้างชำระ
เวลาผ่านเนิ่นนาน นาย ก เริ่มไม่เชื่อใจในหุ้นส่วน และไม่เข้าใจว่าทำไมนาย ข ไม่เคยส่งมอบเงินส่วนกลางให้ตนในจำนวนที่ควรจะมี นาย ข บอกว่าเงินอยู่ในตู้เซฟ ไม่มีปัญหา เวลาเรียกดูบัญชี นาย ข ก็หลีกเลี่ยงต่างๆนา เวลาเรียกเก็บเงินเพื่อมาชำระหนี้ส่วนกลาง นาย ข ก็จะบอกว่า ไม่มี หรือมีน้อยมากเปรียบเทียบกับจำนวนที่เรียกเก็บจากลูกค้า ฉะนั้นนาย ก เป็นคนชำระหนี้และเงินกู้ทุกเดือนให้แก่ส่วนกลางมาตั้งแต่ต้น
นาย ข เริ่มมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงใหม่ ทำให้นาง ง ไม่ต้องการรับรู้หรือทำงานให้ส่วนกลาง นาย ข ไม่สนใจในการทำงานให้ส่วนกลาง นอกจากการเข้าไปรวบรวมเงินที่เก็บจากลูกค้าในตอนเช้าแล้วก็นำไปใช้จ่าย (กำลังสืบว่าส่วนตัวหรือส่วนรวม) เป็นอย่างนี้มานานเกือบปี นาย ก จึงตัดสินใจยื่นมือเข้าไปเป็นคนเก็บเงินที่ปลายทางและนำเงินมาเข้าบัญชีบริษัท ทำให้นาย ข ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่พอใจอย่างยิ่ง
ประมาณ 6สัปดาห์ที่ผ่านมา นาย ข ได้ยักยอกเงินของส่วนกลางไปเป็นจำนวนหนึ่งและหายตัวไปจากการทำงานทั้งสิ้น นาย ข กลับมา 2 สัปดาห์ถัดมา แล้วเรียกร้องว่าจะขอรับเงินจำนวนหนึ่งทุกๆเดือน แล้วจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทใดๆทั้งสิ้น และถ้าไม่ได้จะสร้างความเดือดร้อนไม่รู้จบ ด้วยความหวาดกลัว นาย ก ได้ยินยอมและ นาย ข ได้เซ็นสัญญามอบให้นาย ก เป็นผู้จัดการทุกอย่างในธุรกิจของสองบริษัท ประมาณ 2 สัปดาห์ถัดมา นาย ข กลับมา เรียกร้องขอเงินอีกและข่มขู่จะสร้างความเดือดร้อน นาย ก จำใจต้องจ่ายให้นาย ข อีกครั้ง ทั้งที่ยังไม่ครบกำหนดหนึ่งเดือนของวันทำสัญญาพร้อมทั้งหยิบทรัพย์ของบริษัทไปส่วนหนึ่ง สัปดาห์ที่แล้ว นาย ข กลับมาและหยิบเอาทรัพย์ของบริษัทไปเป็นจำนวนหลายชิ้น และทรัพย์ของลูกค้าที่อยู่ภายในบริษัทไปด้วย พนักงานประจำการ ณ เวลาที่ นาย ข เข้ามาหยิบของ ได้โทรแจ้งนาย ก นาย ก เตือน นาย ข ว่าจะต้องนำทรัพย์มาคืน นาย ข โทรศัพทฺไปด่าว่าพนักงานคนนั้น ว่าทำไมต้องบอก นาย ก พนักงานบอกว่าต้องทำตามหน้าที่ ตอนนี้ลูกค้าจะเรียกร้องค่าเสียหายจากส่วนกลาง ซึ่งจะมีผลให้บริษัทต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายจำนวนมาก วันรุ่งขึ้น นาย ข เปลี่ยนรหัสผ่านระบบเอกสารซึ่งทุกคนในบริษัทใช้ในการทำงาน ทุกคนจึงใช้และเรียกดูข้อมูลไม่ได้ เนื่องจากนาย ก ตอนนี้ ต้องรับความกดดันจากทุกด้าน เครียดจัดและจะต้องเข้าโรงพยาบาล
นาย ข ผิดสัญญาที่เซ็นไว้ ที่กลับมายุ่งเกี่ยวกับส่วนกลาง ทำอย่างไรดีค่ะ
นาย ก ไม่มีความประสงค์ที่จะทำธุรกิจร่วมกับนาย ข อีกต่อไป ต้องเริ่มอย่างไรดีค่ะ (นาย ข ไม่ต้องการแยกและไม่ยอม ต้องรอให้ขายธุรกิจทั้งหมด เศรษกิจแบบนี้ยังไม่มีผู้สนใจอยากซื้อ แต่ต้องใช้ชีวิตด้วยความกลัวว่าพรุ่งนี้นาย ข จะทำอไรเพื่อทำลายธุรกิจอีก นาย ก ก็ไม่อยากจะทำอีกต่อไป)
ขอโทษค่ะที่เรืองวุ่นวายมาก ดิฉันก็เครียดมากกับเรืองนี้ นาย ก เชื่อใจคนมากเกินไปแต่ตอนนี้ นาย ก ต้องการให้เรืองจบสิ้นและไม่ต้องการรับเคราะห์ฝ่ายเดียว ขอให้ท่านมีชัย ชี้แนะด้วยคะ
ขอบพระคุณอย่างสูง
เครียดจัง
|