พ่อและแม่จดทะเบียนสมรสกันมีทรัพย์สินหลังแต่งงานดังนี้

1.ที่แปลงที่ 1 เป็นชื่อพ่อ(บ้านที่พ่อแม่อยู่)

2.ที่แปลงที่ 2 เป็นชื่อพ่อ(บ้านที่ลูกชายอยู่)

3. ที่แปลงที่ 3 เป็นชื่อพ่อและลูกสาว

4. ที่แปลงที่ 4 เป็นชื่อแม่และลูกชาย

5. ที่แปลงที่ 5-10 เป็นชื่อแม่

6. รถสิบล้อเป็นชื่อพ่อ 3 คัน

7. รถยนต์ เป็นชื่อแม่ 2 คัน

ปรากฎว่า

1.ที่ดินแปลงที่ 4 ที่เป็นชื่อแม่และลูกชาย แม่เอาไปจำนองโดยที่ลูกชายไม่รู้ จะมีผลอย่างไรคะ

2.ที่ดินแปลงที่ 5 แม่เอาไปค้ำประกันการกู้โอดีแบงค์ ที่ดินแปลงที่ 6 -10 แม่เอาไปจำนอง และเอารถยนต์ 2 คันที่เป็นชื่อแม่ไปจำนองโดยที่พ่อไม่รู้ มูลหนี้ประมาณ 13 ล้าน ถ้าแม่ไม่ส่งต้นและดอก

2.1เขาคงจะฟ้องล้มฯใช่ไหมคะ

2.2และถ้าฟ้องแล้ว ที่ดินแปลงที่ 5-10 รถยนต์ 2 คัน เป็นสินสมรส พ่อสามารถขอแบ่งฯ ได้มั้ยคะ และตอนนี้แม่โอนรถยนต์ให้ลูกชาย 1 คันจะโดนเพิกถอนและขายทอดตลาดมั้ยคะ

3. ตอนนี้พ่อรู้แล้ว และเสียใจมาก เพราะสมบัติที่เป็นชื่อแม่ แม่เอาไปจำนองหมด เหลือแต่ที่เป็นชื่อพ่อ พ่อจึงเอาที่แปลงที่ 1 โอนเป็นชื่อลูกชาย เป็นการให้โดยเสน่หา

3.1 ถ้าแม่โดนฟ้องล้มฯ ที่ดินและบ้านหลังนี้(แปลงที่ 1)จะโดนเพิกถอนและขายทอดตลาดมั้ยคะ และจะดำเนินการอย่างไรได้ (ตอนไปโอนที่ดินที่ กรมที่ดินฯ ให้พ่อโอนให้แต่ที่ดิน ไม่ต้องโอนบ้านเนื่องจากบ้านฯ เป็นชื่อลูกชายอยู่แล้ว จึงเสียภาษีที่ดินอย่างเดียวค่ะ )

3.2ถ้าโดนขายทอดฯทีดินแล้ว ตัวบ้านที่เป็นของลูกจะทำอย่างไรคะ

3.3 แม่เอาเงินจากลูกชายไป 1ล้าน 1 แสนบาทค่ะ ถ้าทำเป็นว่าขายที่ดินและบ้านให้ได้มั้ยคะ เพราะตอนนี้ลูกชายก็ไม่มีเงินสดแล้วค่ะ

3.4 พ่อจะทำอย่างไรกับแม่ได้มั้ยคะ จะฟ้องหย่าเพื่อให้แบ่งสมบัติก่อนได้มั้ย เพราะสมบัติที่แม่เอาไปจำนองและกู้โอดีมาโดยที่พ่อไม่รู้มีมูลค่ามากกว่าสมบัติที่เป็นชื่อพ่ออีกค่ะ

4. ที่ดินแปลงที่ 3 ที่เป็นชื่อพ่อและลูกสาว พ่อได้โอนให้ลูกสาวแล้ว ถ้าภายหลังแม่โดนฟ้องล้มฯ ที่แปลงนี้จะโดนเพิกถอนการโอนมั้ยคะ และจะโดนขายทอดตลาดมั้ย

ถามเยอะหน่อยค่ะ ตอนนี้ที่บ้านเครียดกันมาก แม่ไม่น่าทำแบบนี้เลย พ่อไว้ใจแม่มากค่ะ ใส่ชื่อสมบัติทุกชิ้นเป็นชื่อแม่หมด มีอยู่ 3-4 ชิ้นที่ซื้อตอนแต่งใหม่ ๆ เท่านั้นที่เป็นชื่อพ่อ ภายหลังใส่ชื่อแม่หมด แม่แต่ทองที่อยู่ในเซฟแม่ก็เอาไปขายหมดค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

คงต้องตอบเป็นหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

1. ทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาที่ได้มาในระหว่างสมรส ย่อมเป็นสินสมรส (ยกเว้นกรณีได้มาทางมรดกหรือการยกให้) ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในชื่อของใคร ทั้งสองฝ่ายก็มีสิทธิคนละครึ่ง

2. หนึ้สินที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าเป็นหนี้ส่วนตัว ก็ต้องใช้จากทรัพย์สินส่วนตัว ถ้าเป็นหนี้ที่นำมาใช้เพื่อประโยชน์ของครอบครัวก็เป็นหนี้ร่วมกัน

3. ถ้าเป็นหนี้ร่วมกัน เจ้าหนี้ก็มายึดทรัพย์สินอันเป็นสินสมรสไปขายได้  แต่ถ้าเป็นหนี้ส่วนตัว ก็ได้แต่มาเอาส่วนของคนที่เป็นลูกหนี้  ถ้าแยกไม่ได้และต้องขายทั้งแปลง อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องไปร้องต่อศาลเพื่อขอกันส่วนของตัวออกมาเสียก่อน

4. เมื่อสามีหรือภริยาล้มละลาย ทรัพย์สินอันเป็นสินสมรส จะถูกแยกจากกันโดยผลของกฎหมาย โดยไม่ต้องหย่า ต่างฝ่ายต่างมีสิทธิคนละครึ่ง  เจ้าหนี้ของฝ่ายไหนก็มาเอาทรัพย์ของฝ่ายนั้นไปชำระหนี้

5.ถ้าทรัพย์สินที่จะถูกยึดมีส่วนของลูกด้วย ลูกก็ต้องดำเนินการตามข้อ 3

5.