เรียน อาจารย์มีชัย ที่เคารพ เรื่องของผมมีอยู่ว่า ส่วนราชการต้นสังกัดได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกรณีที่ผมได้ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ต่อมา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผมชดใช้ตามที่ส่วนราชการฟ้อง ผมจึงอุทธรณ์ แต่เมื่อเดือนมกราคม 2544 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ผมไม่ยอมชำระ กรมบังคับคดีจึงอายัดหุ้น เงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯซึ่งผมเป็นสมาชิก สหกรณ์ฯจึงได้ส่งเงินปันผลและเฉลี่ยคืนให้ส่วนราชการตามการบังคับคดีตั้งแต่เดือน ม.ค. 2550 ถึง ปัจจุบัน ผมจึงขอถามอาจารย์ว่า ๑. อายุความคดีนี้จะสิ้นสุดเมื่อใด ๒. เมื่อสิ้นอายุความตามข้อ ๑ แล้ว กรมบังคับคดีสามารถอายัดเงินปันผลและเฉลี่ยคืนได้อีกต่อไปหรือไม่ ๓. บ้านของผมติดจำนองที่ธนาคารก่อนวันที่ที่ทั้ง ๒ ศาลจะพิพากษา กรมบังคับคดีสามารถนำทรัพย์สินของกระผมไปขายทอดตลาดได้หรือไม่ อย่างไร หวังเป็นอย่างยิ่งว่า อาจารย์คงให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันผมค่อนข้างกังวลเป็นบางโอกาส ครั้นจะนำเงินไปทยอยจ่ายก็ไม่เพียงพอ จึงยอมให้สหกรณ์ฯส่งเงินเป็นผลและเฉลี่ยคืนให้ส่วนราชการต้นสังกัดตามคำพิพากษาของศาล โดย ๓ ปีที่ผ่านมาได้ทยอยชำระหลายหมื่นบาท
1.-2. เมื่อเขาฟ้องคดีจนถึงขั้นยึดอายัดทรัพย์แล้ว อายุความของคดีก็ไม่เกี่ยวแล้ว เพราะแสดงว่าเขาได้ฟ้องภายในอายุความแล้ว แต่สำหรับการบังคับคดีนั้น เจ้าหนี้มีเวลาบังคับคดีได้เป็นเวลา 10 ปี นับแต่ศาลพิพากษา
3. ถ้าการนำบ้านที่ติดจำนองไปขายแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหนี้ เขาก็สามารถทำได้