ถามเรื่องหลักการฟ้องร้องและการฟ้องกลับ
เนื่องจากผมได้ซื้อที่ดินผ่านระบบการประมูลโดยกรมบังคับคดี และตอนนี้เจ้าของทรัพย์จะฟ้องร้องเรียกเงินจากผม จำนวน 6 หมื่นบาท
สาเหตุคือ ก่อนหน้านั้นประมาณ 6 เดือน ผมจะเข้าไปประมูลทรัพย์แปลงนี้ แต่เจ้าของทรัพย์ซึ่งรู้จักกัน ได้เข้ามาเสนอว่า เค้าจะเข้าไปประมูลทรัพย์ออกมาก่อนแล้วจะพาผมไปเจรจาประนอมหนี้กับธนาคาร ซึ่งจะได้ราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินแน่นอน (ประมาณ 3 ล้าน) ซึ่งราคาประเมินของกรมบังคับคดี 4 ล้านบาท ผมจึงได้ตกลงไปว่าถ้าทำได้อย่างนั้นผมจะจ่ายค่าวางทรัพย์สำหรับการประมูลของเค้าให้ด้วย(ไม่มีการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร) สาเหตุที่เค้าต้องการทำอย่างนั้นเพราะหนี้จริงๆ ของธนาคารประมาณ 4.5 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยจากหนี้ 10 กว่าปี ยอดเงินกู้จริงๆ ประมาณ 2 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นถ้าประมูลกันตามราคาประเมินเค้าก็ยังไม่หมดหนี้กับธนาคาร แต่เค้าบอกว่าได้ลองคุยกับธนาคารคร่าวๆ มาก่อนแล้วว่าน่าจะประนอมหนี้ได้ที่ราคาประมาณ 3 ล้าน
ผลปรากฏว่าเค้าไปประมูลมาได้จริงๆ แต่ช่วงเวลาหลังจากนั้น 100 วันเค้าไม่เคยพาผมไปคุยกับธนาคาร ตรงกันข้ามกลับนำทรัพย์ที่ได้ไปถามคนอื่นๆ รวมทั้งคนในซอยว่าสนใจจะซื้อทรัพย์ต่อจากเขาหรือไม่ ผลสุดท้าย ครบกำหนดวางทรัพย์ทั้งหมดเค้าก็ไม่สามารถขายที่ให้ใครได้ และถูกยึดเงินมัดจำการประมูลไป 5 หมื่นบาท
หลังจากนั้นทรัพย์ดังกล่าวจึงถูกนำเข้ามาประมูลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า ธนาคารคงได้ข้อมูลว่ามีคนสนใจจึงเข้ามาประมูลแข่งผลปรากฏว่า ผมประมูลได้ในราคา 4 .3 ล้าน ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินด้วยซ้ำ
มาวันนี้เจ้าของทรัพย์คนเดิมได้ให้ทนายส่งจดหมายมาให้ผมจ่ายคืนค่ามัดจำที่เค้าไปประมูลทรัพย์ครั้งแรก ถ้าไม่จ่ายเค้าจะฟ้องศาล
*จริงๆ มารู้ทีหลังว่ามีคนอื่นๆ ที่สนใจทรัพย์นี้และให้เงินกับเจ้าของทรัพย์ไปก่อน ด้วยเงื่อนไขว่าจะพาไปคุยกับธนาคาร เป็นจำนวนเงินหลายแสนบาท และทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คืนจากเจ้าของทรัพย์คนนี้เช่นกัน
คำถาม
1. จากเหตุการณ์ดังกล่าว ศาลจะรับฟ้องหรือไม่ เพราะว่า ผมไม่ได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร อีกทั้งโดย พฤตินัย ผมก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากการประมูลรอบแรกของเจ้าของทรัพย์เลยแม่แต่น้อย ไม่เคยไปที่ธนาคารกับเจ้าของทรัพย์ด้วยซ้ำ
2. ถ้ามีการฟ้องร้องขึ้นมาจริงๆ แล้ว ผมชนะคดี ผมจะสามารถฟ้องกลับ ข้อหาอะไรได้บ้าง เช่น ข้อหาหมิ่นประมาท ข้อหาเสียเวลา
|