ไม่ยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน...แต่เพราะมาทีหลังจึงต้องยอมผู้อยู่ก่อนหรือ??
กราบเรียน ท่านอาจารย์มีชัยฯ
ดิฉันมีเรื่องเรียนปรึกษาอาจารย์ ดังนี้ค่ะ ปัจจุบันดิฉันอยู่ระหว่างปลูกสร้างบ้านพักอาศัยบนที่ดินเปล่าของตนเอง โดยที่ดินที่ปลูกสร้างบ้านดังกล่าว เป็นแปลงหัวมุมถนน (ด้านหน้า และด้านข้างขวาติดถนนสาธารณะ ด้านข้างซ้ายติดที่ดินของบุคคลอื่น) ส่วนด้านหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาในครั้งนี้ ติดกับบ้านที่เป็นลักษณะทาวน์เฮาส์ 3 หลัง โดยทั้ง 3 หลังได้ต่อเติมพื้นที่บริเวณชั้น 1 ของเขามาติดแนวรั้วทั้งหมด กล่าวคือ ทุกหลังจะไม่มีรั้วด้านหลังบ้านเลย เพราะใช้รั้วเป็นผนังบ้าน พร้อมกับได้ทำหลังคาคลุมบริเวณที่ต่อเติมยื่นเข้ามาในที่ดินของดิฉันทุกหลัง (วัดระยะได้ประมาณ 18 ซม.)โดยไม่มีรางน้ำฝนรับน้ำจากหลังคา (เดิม ก่อนที่ดิฉันจะมาปลูกสร้างบ้านบนที่แปลงนี้ ที่ดินมีลักษณะเป็นที่รก ต้นไม้ขึ้นเต็ม เนื่องจากผู้ขาย คือ เจ้าของหมู่บ้านที่ดิฉันเข้าไปซื้อที่ดินต่อมาใช้เป็นที่ทิ้งเศษวัสดุก่อสร้าง และขยะต่าง ๆ ของโครงการ)
นอกจาก มีหลังคาที่ยื่นมาแล้ว ด้านหลังของบ้านทั้ง 3 หลัง ยังมีท่อ PVC ขนาดใหญ่ประมาณ 3 นิ้ว ยื่นออกมาจากผนังบ้าน แล้วต่อข้องอ PVC เชื่อมเป็นท่อยาวชี้ขึ้นฟ้า สูงขึ้นไปจนสูงเท่ากับระดับหลังคาชั้น 1 ที่บ้านทั้ง 3 หลังต่อเติมเอาไว้
เมื่อแรกที่ดิฉันเข้าไปดูที่เพื่อเริ่มปลูกสร้างบ้าน ก็คิดว่าจุดดังกล่าวน่าจะเป็นปัญหาในการทำรั้วบ้านของดิฉัน และหากเข้าอยู่จริงคงจะได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่ไหลเข้ามาในบริเวณบ้านจากหลังคาบ้านดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่ดิฉันก็ได้หารือกับทางบ้านไว้ว่า จะดำเนินการปลูกสร้างไปสักระยะแล้วจึงจะไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านเหล่านั้น ในเวลาต่อมา ดิฉันได้ไปพูดคุยกับเจ้าของบ้าน 2 หลัง (อีก 1 หลังยังไม่ได้คุย เนื่องจากเจ้าของบ้านทำงานช่วงกลางคืน เวลาเราจึงไม่ตรงกัน เพราะเขาพักผ่อนตอนกลางวัน เลยไม่มีโอกาสได้พบกัน) โดยเรียกให้เขามาดูว่าหลังคาบ้านเขายื่นเข้ามาในที่เรา และมีท่ออะไรไม่ทราบยื่นเข้ามาด้วย ซึ่งเจ้าของบ้านทั้ง 2 ก็ทำท่างง บอกเราว่าไม่รู้ว่าเป็นท่ออะไร ส่วนหลังคาก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไร แต่ทางดิฉันคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นคนดำเนินการติดตั้งรางน้ำฝนให้เอง (คิดว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเก็บน้ำฝนไว้รดน้ำต้นไม้) แต่สำหรับท่อนำที่ยื่นออกมา(คาดว่าจะเป็นท่อระบายอากาศห้องสุขา) ดิฉันคงจะต้องเอาออก เพราะมันทำให้ดิฉันไม่สามารถเทคาน เพื่อดำเนินการก่อสร้างรั้วด้านดังกล่าวต่อไปได้ โดยดิฉันแจ้งเจ้าของบ้าน 2 หลังไปว่า จะดำเนินการลดขนาดท่อลง เพื่อให้ท่อดังกล่าวขยับเข้าไปชิดกับผนังบ้านของเขามากที่สุด เพื่อให้ช่างของดิฉันสามารถทำงานได้
โดยเมื่อได้ดำเนินการไปแล้ว เมื่อวันที่ 20/09/09 เจ้าของบ้านหลังกลาง (1 ใน 3 หลัง) ได้โทรมาหาดิฉันแจ้งว่า ที่ดิฉันไปลดขนาดท่อลงทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบ คือ ชักโครกกดลงยาก และมีกลิ่น เขาถามว่าดิฉันจะทำอย่างไร ซึ่งดิฉันแจ้งไปว่า ที่ดิฉันทำไปดิฉันทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้ตัดท่อของพวกเขาทิ้งไปเฉย ๆ แต่ลดขนาดให้ แถมยังจะทำรางนำฝนให้เขาด้วย แล้วยังจะให้ดิฉันทำอย่างไรอีก ขอให้คุยกันด้วยเหตุผล สิ่งที่พวกเขาทำอยู่มันผิดอยู่ตั้งแต่แรก ละเมิดสิทธิของผู้อื่น อยากให้เขาลองนึกถึงใจเขาใจเราบ้าง ที่ดิน ดิฉันก็ซื้อมา ไม่ได้ได้มาฟรี ๆ (ดิฉันลืมเล่าให้อาจารย์ฟังค่ะ ก่อนหน้าที่จะมีการโทรศัพท์มาหาดิฉัน เจ้าของบ้านหลังด้านริมถนน เดินมาถามคนงานดิฉันตอนเย็นว่า ทำไมบ้านดิฉันถึงไม่ขยับแนวที่จะทำรั้วให้ห่างออกจากบ้านเขาไปสัก 50 ซม.ซึ่งดิฉันไม่เข้าใจคะว่าเขาถือสิทธิอะไร หรือคิดอย่างไรจึงมาพูดแบบนี้ ในเมื่อดิฉันปลูกสร้างบ้านอยู่บนที่ดินของตนเอง เว้นระยะทุกอย่างถูกต้องตามเทศบัญญัติ)
ดิฉันอยากขอเรียนปรึกษาอาจารย์ค่ะ ว่า กรณีนี้ดิฉันจะไปร้องต่อเขตได้หรือไม่คะ เพื่อให้เขตมาตัดสิน (หากว่ากันตามกฎหมายแล้วดิฉันเป็นฝ่ายถูกใช่ไหมคะ) แต่ใจจริงดิฉันไม่อยากทำค่ะ คิดว่าเป็นเพื่อนบ้านกันน่าจะพอพูดคุยกันได้ แต่แฟนดิฉันเห็นว่า คงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะเขาคงไม่ยอมเป็นฝ่ายดำเนินการใด ๆ (คงอยากอยู่เฉยๆ )บอกแต่ว่า เอายังไงก็ได้ที่ทำให้ห้องน้ำเขากลับมาเหมือนเดิม หรือถามว่า หลักเขตบ้านดิฉันชนกับบ้านเขาจริงหรือไม่ หรือลองมาแลกบ้านกันอยู่ไหม (อันนี้เจ้าของบ้านเพียงหลังเดียวเป็นคนพูดนะคะ อีก 2 หลังยังไม่ได้พบกันต่อหน้าค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าพบแล้วจะแย่กว่านี้หรือไม่) เขาทำให้ดิฉันรู้สึกว่า ดิฉันไปรังแกเขาอย่างไรไม่ทราบคะ ดิฉันหนักใจเพราะยังไม่ได้เข้าอยู่เลย แค่เริ่มต้น ไม่อยากมีปัญหาจริง ๆ ค่ะ แต่ดูเหมือนสถานการณ์กำลังบีบบังคับดิฉัน
ดิฉันจึงอยากเรียนปรึกษาอาจารย์ค่ะ ว่าสำหรับกรณีนี้ทางออกที่ถูกต้องดิฉันควรดำเนินการอย่างไรคะ และมีประเด็นอะไรเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่ดิฉันควรจะต้องทราบไว้หรือไม่คะ
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงค่ะ...(และขออภัยนะคะที่เขียนเรื่องราวมายาวไปสักหน่อยค่ะ)
plasawan |