เรียนท่านอาจารย์มีชัย
หนูมีนิสัยชอบเพศเดียวกัน ได้รู้จักกับน้องคนหนึ่งโดยการแนะนำของเพื่อนที่พูดคุยกับน้องคนนั้นมาเป็นเวลากว่า2ปีซึ่งน้องได้บอกกับเพื่อนหนูว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นนิสิตแพทย์ของม.นเรศวรตัวหนูมีโรคประจำตัวเป็นไตเสื่อมเพื่อนเห็นว่าจะได้เป็นที่ปรึกษากันได้หนูจึงได้พูดคุยกับน้องคนนั้นโดยไม่เคยเห็นหน้าจริงเพียงแต่มีการส่งรูปมาให้ดู สักประมาณ2สัปดาห์หลังจากคุยกัน พ่อแม่ของน้องได้มาหาหนูเหตุผลคือกลัวว่าหนูจะไปหลอกลวงลูกสาวเค้าเพราะลูกเค้ายังเด็กหลังจากที่ได้พบเจอกันพ่อแม่ของน้องก็แวะเวียนนำอาหารและมาช่วยทำความสะอาดบ้านอยู่ประจำได้รู้จักสนิทสนมกับแม่ของหนูด้วยตัวหนูไม่เคยได้คุยโทรศัพย์กับแม่ของน้องเลยเคยคุยกับพ่อของน้องเท่านั้น จนวันหนึ่งขณะที่คุยกับน้องอยู่มีเพื่อนบ้านมาขอให้หนูไปคำประกันเงินกู้ให้แต่หนูปฏิเสธ น้องจึงสอบถามว่าแถวบ้านออกดอกร้อยละเท่าไรหนูก็ได้ตอบไปว่าร้อยละ2-3บาทเค้าบอกว่าถูกเอามาให้แม่เค้าออกดีกว่าร้อยละ20เพราะแม่ของน้องทุกวันนี้ไม่ต้องทำอะไรเลยมีรายได้จากการออกเงินกู้เท่านั้นใช่ชีวิตอย่างสบายข้อสำคัญหนูจะได้ไม่ต้องทำงานเหนื่อยมากจะได้มีรายได้เพิ่มซึ่งหนูก็เห็นว่าจะสิ่งที่ทำให้หนูมีรายได้เพิ่มหนูจึงตอบตกลงโดยได้โอนเงิน10000บาทแรกให้หลังจากนั้นแม่น้องได้บอกว่ามีคนต้องการเงินกู้เพิ่มอย่าได้อีกหนูไม่มีเงินจึงไปยืมเงินของแม่มาโอนไปให้อีก20000บาทหลังจากนั้นหนูเริ่มผิดสังเกตคือแม่น้องไม่มาหาเหมือนเดิมจึงเก็บความสงสัยไว้ในใจ แต่หนูยังพูดคุยกับน้องและพยายามจะขอพบน้องจนวันนึงหนูออกอุบายว่าถ้าได้เจอหน้าหนูจะซื้อแหวนให้ น้องจึงให้หนูไปพบซึ่งก่อนหน้านั้นเค้าพยายามบ่ายเบียงไม่ให้พบ เมื่อพบน้องสิ่งแรกเลยหนูรู้แน่ว่าน้องไม่ได้เป็นนิสิตแพทย์ด้วยบุคลิกและการวางตัว หนูจึงกลับมาทำการตรวจสอบไปยังมหาวิทยาลัยจึงได้รับทราบว่าเค้าไม่ได้เรียนแพทย์จริงแต่เค้าเรียนอยู่ราชภัฏแห่งหนึ่งหลังจากนั้นหนูก็ติดต่อไม่ได้เลยทั้งพ่อแม่และตัวน้องจึงได้ไปหาที่บ้านพบพ่อบอกว่าไม่รู้เรื่องทุกอย่างต้องรอแม่ไม่รู้กระทั้ลูกสาวตัวเองเรียนที่ไหน ซึ่งวันที่หนูไปแม่น้องไม่อยู่บ้าน จึงไปแจ้งความดำเนินคดี หนูอยากรบกวนเรียนถามท่านอาจารย์มีชัยดังนี้
1เป็นคดีฉ้อโกงหรือเปล่าค่ะ
2ทางฝ่ายน้องเค้าปฏิเสธเค้าหาว่าหนูให้โดยเสน่หา ให้เปนสินสอดมันเป็นไปได้ไม่ค่ะ
3ถ้ามีการฟ้องร้องกันหนูสามารถเรียกร้องเงินที่เสียไปคืนได้ไหมค่ะ
หนูขอขอบคุณท่านอาจารย์มากค่ะ
ด้วยความนับถืออย่างสูง
คนเมืองสิงห์
เรียน คนเมืองสิงห์
1. การจะเป็นฉ้อโกงได้ต้องได้ความว่าเขาตั้งใจหลอกลวงเพื่อให้ได้เงินไป แต่ถ้าเป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างยินยอมเพื่อนำเงินไปหาดอกผลก็ไม่ใช่ฉ้อโกงแต่เป็นเรื่องทางแพ่ง ส่วนการที่เขาบอกว่าเขาเป็นนักเรียนแพทย์นั้นเป็นคนละเรื่องกับเรื่องเงิน เพราะเป็นเรื่องที่คุณมุ่งจะติดต่อกับเขาในทางเพศ
2. ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานทางฝ่ายคุณ
3. ถ้ามีหลักฐานการให้เงินเขาไป ก็ฟ้องร้องกันได้