เรียน อาขารย์มีชัย
ผมมีคำถามเกี่ยวกับการเช่าซื้อรถยนต์ดังนี้ครับ
เมื่อหลายปีก่อนเคยเช่าซื้อรถยนต์จากบริษัทไฟแนนซ์ ต่อมาไม่สามารถผ่อนได้ทางไฟแนนซ์ได้ฟ้องและศาลมีคำพิพากษาให้คืนรถหรือชดใช้เป็นเงินจำนวนแสนกว่าบาท หลังจากมีคำพิพากษาได้ติดต่อชำระเงินให้กับไฟแนนซ์ตามคำพิพากษาแต่ไฟแนนซ์ไม่ยอมรับ จะให้ผมชำระสองแสนกว่าบาทซึ่งเกินจำนวนตามคำพิพากษาไว้แสนกว่าบาท ผมพยายามหลายครั้งแต่เจรจาไม่สำเร็จสอบถามเพื่อนที่เป็นทนายความได้รับคำแนะนำให้เก็บรถไว้กับตัวและรอให้ไฟแนนซ์มารับรถคืนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของกรมบังคับคดีเท่านั้น
ต่อมาเมื่อปีก่อนมีคนอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากไฟแนนซ์ให้มารับรถคืนแต่ไม่มีหลักฐานมาแสดง ผมถามว่าเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือไม่เขาบอกว่าเป็นแต่เมื่อถามหาบัตรประจำตัวก็ไม่มีเช่นกัน พวกนี้มากันหลายคนและข่มขู่คุกคามผมและได้ให้รถยกมาลากรถไปต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 โดยอ้างว่าจะลากไปที่โรงพัก พอผมตามไปที่โรงพักกลับยกรถไปเก็บไว้ที่บ้านของพนักงานบริษัท ผมเคยถามปัญหานี้มาแล้วครั้งหนึ่งอาจารย์แนะนำให้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และลักของโจร ซึ่งผมก็ได้แจ้งความเมื่อปี 2551 แล้ว
ต่อมาเมื่อเดือนสค.52 ผมติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความ ทราบว่าตำรวจมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และอัยการก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน ต่อมาเมื่อต้นเดือนกย. 52 ทางไฟแนนซ์ได้ให้คนติดต่อมา โดยแจ้งว่าได้ขายรถคันดังกล่าวไปในราคา 5 หมื่นกว่าบาท ยังขาดส่วนต่างอีกแสนกว่าบาทให้ผมชำระไม่งั้นจะเรียกเอากับผู้ค้ำประกัน
ผมอยากเรียนถามว่าในกรณีนี้เมื่อรถได้ขายไปแล้ว (และขณะที่ขายรถบริษัทก็ไม่ได้มีหนังสือแจ้งมาให้ไปดูการขาย) ผมและผู้คำประกันยังต้องรับผิดชอบต่อจำนวนเงินที่ขาดไปหรือไม่ หรือจะต้องรับผิดชอบมากน้อยเท่าใด และกรณีที่อัยการมีความเห็นไม่ฟ้องผมควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ