บทเฉพาะการของกฎหมาย
เรียนถามอาจารย์ เนื่องจากมีผู้สูงอายุ คนหนึ่ง อายุ 70 ปี ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ :(ตั้งแต่ปี 2536- ปัจจุบัน) ตามระเบียบกรมประชาสงเคราะห์เพื่อการยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ พ.ศ. 2543 ของ องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง แต่ในปี 2542 ได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่ตำบลอื่น ต่อมามีผู้ร้องเรียนจะถือว่าผู้สูงอายุขาดคุณสมบัติการได้รับเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ
โดยมีระเบียบที่เกี่ยวข้อง 2 ระเบียบคือ
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 กำหนดคุณสมบัติผู้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุว่า
ข้อ 6 (1) มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (2) มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ....
มีบทเฉพาะการว่า ข้อ 22 ระเบียบนี้มิให้กระทบกับผู้สูงอายุตามระเบียบกรมประชาสงเคราะห์เพื่อการยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
ข้อ 23 ในกรณีที่การดำเนินการใดที่ขัดแย้งกับระเบียบนี้ก่อนที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับให้ถือเป็นการปฏิบัติที่ชอบด้วยระเบียบนี้ และให้ อปท.ดำเนินการไปตามระเบียบนี้นับแต่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ประกาศ ณ วันที่ 26 กันยายน 2548
ส่วนระเบียบกรมประชาสงเคราะห์ ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ (ฉบับที่2) พ.ศ. 2545 ข้อ 5 ผู้มีคุณสมบัติจะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพตามระเบียบนี้คือ ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพหรือถูกทอดทิ้ง หรือขาดผู้อุปการะดูแลไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
ซึ่งไม่ได้กำหนดเรื่องการย้ายภูมิลำเนาไว้
ต่อมาปี 2549 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้ยกเลิกระเบียบกรมประชาสงเคราะห์ ฉบับดังกล่าว
ซึ่งผมเข้าใจว่า ผู้สูงอายุรายนี้ยังคงมีสิทธิได้รับเงิน ถึง ปี 2549 จนระเบียบกรมประชาสงเคราะห์ถูกยกเลิก ให้มาใช้ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพของ อปท.พ.ศ. 2548
แต่บางคนบอกว่าสิทธิเขาไม่สิ้นสุดลง แม้จะย้ายภูมิลำเนา เพราะได้บทเฉพาะการให้ไว้
จึงเรียนถามว่า ผู้สูงอายุจะขาดุณสมบัติการรับเงินเบี้ยยังชีพหรือไม่ ถ้ากรณีกฎหมายที่บทเฉพาะการอ้างถึงได้ยกเลิกแล้ว หรือ บทเฉพาะการใช้ได้ตลอดไปและถ้าขาดคุณสมบัติ จะขาดคุณสมบัติเมื่อใด |