การที่มีข้อบังคับกำหนดว่า ข้อ ๔ ค่ารักษาพยาบาล หมายความว่า เงินที่สถานพยาบาลเรียกเก็บในการักษาพยาบาลดังนี้ ๑) ค่ายา ค่าเลือด ฯลฯ๒) ค่าอวัยวะเทียม รวมทั้งค่าซ่อม ฯลฯ วรรคสอง ค่าบริการในการใส่ฟันปลอม ให้เบิกได้ตามประเภทและอัตราที่การประปากำหนด๓) ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าตรวจ ค่าวิเคราะห์โรคค่าพยาบาลพเศษ รวมถึงค่าอื่นที่จำเป็น เพื่อให้ผลของการประสบอันตรายหรือการเจ็บป่วยบรรเทาหรือหมดสิ้นไป ๔) ค่าห้องรวมทั้งค่าอาหาร ข้อ ๕ ผู้ปฏิบัติงานและครอบในครอบครัว ซึ่งเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของราชการ ทั้งประเภทผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกให้เบิกค่ารักษาพยาบาลได้เต็มจำนวนทีท่จ่ายจริงเว้นค่าห้อง ค่าอาหารและค่าพยาบาลให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ข้อ ๖ ผู้ปฏิบัติงานที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนเฉพาะประเภทผู้ป่วยใน ให้เบิกค่ารักษาพยาบาลได้กึ่งหนึ่งของจำนวนที่จ่ายได้จริง เว้นแต่ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาลพิเศษ และค่าธรรมเนียมพิเศษของแพทย์ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ข้อ ๗ ค่าห้อง ค่าอาหารในสถานพยาบาลของราชการหรือเอกชนให้จ่าย ฯลฯข้อ ๘ ค่าบริการทางการแพทย์ที่เป็นค่าธรรมเนียมพิเศษของแพทย์ (DOCTOR' fee) ที่จ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน ๓๐๐๐ บาท คำถามนะครับ ตามข้อ ๘ นั้น กระผมเห็นว่าน่าจะต้องใช้ควบคู่กับข้อ ๖ ในเรื่องค่าธรรมเนียมแพทย์พิเศษ หรือสามารถใช้ควบคู่กับข้อ ๔ ในเรื่องค่าบริการทางการแพทย์ที่เป็นค่าธรรมเนีบยมแพทย์ (ขัอ ๘) กล่าวคือ ค่าบริการทางแพทย์ดังกล่าวหมายรวมถึงค่าธรรมเนียมแพทย์ดังกล่าวด้วยหรือไม่ ตัวอย่าง หากกระผมเข้าสถานพยาบาลของราชการ ม.มหิดล แต่เข้ารับการรักษาในคลินิกพิเศษเช่น คลินิกทันตกรรม ม.มหิดล คิดค่าธรรมเนียมแพทย์ผมจะเบิกค่าทำทันตกรรมได้เต็มหรือไม่ เช่น ค่าทำฟันที่ระบุในประเภทและอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด ในใบเสร็จเบิกได้ แต่ค่าธรรมเนียมแพทย์ระบุว่าเบิกไม่ได้แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วหน่วยงานให้เบิกได้โดยใช้หลักว่า เป็นค่ารักษาพยาบาลตามข้อ ๔ และรักษาในสถายพยาบาลของราชการ ตามข้อ ๕คำถามนี้ผมขอบอกว่าผมขอถามไว้เป็นความรู้ไม่ได้ไปเอาผิดกับใครทั้งสิ้นเป็นความข้องใจส่วนตัวครับ