สวัสดีค่ะ

ดิฉันมีเรื่องอยากจะถามอาจารย์หน่อยค่ะ คือดิฉันได้ถูกธนาคารอาคารสงเคราะห์ฟ้องให้ชำระหนี้ที่กู้มาสร้างบ้าน โดยเอาที่ดินจำนอง  หลังจากขึ้นศาลดิฉันได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ยอมชำระหนี้จำนวนเน 622,756.59 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 13.50 ต่อปี ของเงินต้น 561,694.08 บาท เป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าเดือนละ 6,300 บาท และในสัญญาได้ระบุว่าหากผิดนัดชำระหนี้ ดิฉันจะยอมให้ยึดทรัพย์ที่จำนอง และสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินขายออกทอดตลาดได้ทันที เพื่อนำเงินมาชำระแก่โจทก์  ดิฉันอยากถามดังนี้ค่ะ

1. ถ้าดิฉัน ไม่สามารถชำระหนี้ 6300 บาทได้อีกแล้ว เนื่องจากดิฉันมีหนี้บัตรเครดิตอีกหลายใบ ซึ่งทำประนอมหนี้ไปบ้างแล้ว ดิฉันจะโดนยึดบ้านและที่ดินที่จำนองได้โดยทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาลอีกใช่หรือไม่คะ

2. ถ้านำสินทรัพย์ที่ยึดไป ขายทอดตลาด แต่ระหว่างที่รอขายอยู่นั่น ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะขายทรัพย์สินได้ใช่หรือไม่  แล้วถ้าขายสินทรัพย์นั้นไม่ได้ซะที ดิฉันก็จะมีหนี้ที่พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ แล้วดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้างคะ

3. มีสิทธิ์หรือไม่ ที่ดิฉันจะถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย ถ้าหนี้บ้าน+ดอกเบี้ยถึง 1 ล้านบาท

4. แล้วธนาคารมีสิทธิ์ที่จะยึดเงินเดือนของดิฉันที่โอนเข้าธนาคาร(ไม่ใช่อาคารสงเคราะห์) ไปชำระหนี้ได้หรือไม่ แล้วถ้ามีสิทธิ์ยึด เจ้าหนี้จะสามารถยึดไปหมดได้หรือไม่ หรือแค่บางส่วนของเงินเดือน เพราะถ้ายึดไปหมดดิฉันจะอยู่ยังไง

ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ

1.  ถ้าศาลได้พิพากษาตามยอมเช่นนั้น เจ้าหนี้ก็อาจไปร้องขอให้บังคับคดีได้ทันทีโดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่

2. ในระหว่างชำระหนี้ยังไม่หมด ดอกเบี้ยก็จะเดินต่อไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญเวลาขายได้เงินมาเขาก็จะเอาไปชำระดอกเบี้ยที่ค้างก่อน ส่วนเงินต้นนั้นก็ยังผลิตดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อยไป  ทางหนึ่งที่พอจะทำได้ก็คือหาคนไปซื้อบ้านนั้นโดยเร็ว

3. ถ้าหนี้ถึงหนึ่งล้านบาท ก็มีโอกาส

4. เขายึดไปบางส่วน