เรียนอาจารย์
ดิฉันขอรบกวนนะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพื่อนแฟนมาก็ยืมชื่อแฟนให้ช่วยเป็นกรรมการบริษัทฯให้ เขาก็เอาสำเนาบัตรและลายเซ็นของดิฉันไปด้วยซึ่งเป็นภรรยา ผลสุดท้วยก็เกิดบริษัทมา เปิดไป 1-2 ปี บริษัทฯต้องจบลงเพราะเซล ฉ้อโกงบริษัท ภายในเรื่องต่างๆ สามีดิฉันไม่รู้เรื่องเอกสารเลย เขาทำกันเอง บริษัทฯจบลง เป็นหนี้บริษัทขายรถ 3000000 กว่าบาท เซลของบริษัทที่แฟนเป็นกรรมการคงไปเอารถมา ( เพื่อนแฟนดิฉันมาเปิดขายรถค่ะ ) เพื่อนแฟนบอกว่าต้องไปเซ้นต์รับหนี้ไปก่อน แล้วค่อยตกลงกันอีกที หลังจากนี้นเพื่อนแฟนก็คงไม่ได้ผ่อนผลสุดท่ายศาลมีมายึกทรัพย์ของสามีขายทอดตลาด(ตอนที่แฟนไปเซนต์รับหนี้แทนดิฉันไม่รู้เรื่อง รวมไปถึงเรื่องอื่นดิฉันไม่รู้ๆอย่างเดียวก็เขาเอาเอกสารไป่ตั้งบริษัท ในถานะภรรยา
มีคำถามจะถามอาจาย์ว่า
1 ทรัพย์ที่ขายถอดตลาดเป็นบ้านพร้อมที่ดิน เป็นสินสมรส ดิฉันไปคัดค้านส่วนที่เป็นของดิฉันได้ไหมคะ
2. การยึดทรัพย์ต่อไปในอนาคตเขาจะยึดไปถึงสมบัติลูกหรือเปล่า
3. ตอนนี้ดิฉันซื้อบ้านโดยแฟนไม่มีส่วนผ่อนเลย กลัวอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไรยังไม่รู้ ถ้าดิฉันหย่า แล้วลงรุบุว่าบ้านหลังที่ 2 สามีไม่ม่ส่วนผ่อน เพิ่งผ่อนไปได้1 ปี ก็มีเรื่องขายทอดตลาดหลังเก่ามา (ตอนนี้ยังไม่ได้หย่า มันก่ำกึ่งไม่รู่ว่าเรื่องจะจบอย่างไร รบกวนอาจารย์ แนะนำหน่อยนะค่ะ ฉันกลัวมากค่ะ
4. ที่ศาลยึด 2 แปลง เป็นของเพื่อนแฟน 1 แปลง แต่ญาติมาซื้อ่ต่อไป คือแสดงว่าปลดหนี้ไปแล้วประมาณ 800000 บาท ส่วนที่เหลือจะไปคุยกับเจ้าหนี้ได้ไหมค่ะ
เรียน คุณจันฉาย
1. ไปคัดค้านได้ และควรจ้างทนายไปดำเนินการโดยเร็ว
2. ถ้าลูกบรรลุนิติภาวะแล้วก็คงไม่เป็นไร
3. ไม่ว่าเขาจะมีส่วนในการผ่อนส่งหรือไม่ บ้านนั้นก็เป็นสินสมรส เจ้าหนี้เขาก็มาเอาไปครึ่งหนึ่งได้
4. ได้ สำหรับหนี้ที่ปลดไปแล้วนั้น ต้องตรวจสอบว่าเขาปลดหนี้ส่วนที่เป็นดอกเบี้ย ดังนั้นเงินต้นจึงยังคงอยู่ และสามารถผลิตดอกเบี้ยได้เรื่อยไป