เรียนถามอ.มีชัย
ดิฉันได้ทำการผ่อนรถมือสองได้ 8 งวด กับอีกบางส่วน ผ่อนชำระไปถึงเดือนกันยายน 2551 พอ 25/12/51 มีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญา หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่ได้รับหนังสืออะไรอีกเลย พอมาวันที่ 24/05/52 มีเจ้าหน้าที่มายึดรถของดิฉันโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่มีหลักฐานอะไรให้ไว้กับดิฉันเลย และดิฉันก็ไม่ได้เซ็นต์รับทราบอะไรเลย และดิฉันก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ว่าจะขอจ่ายเงินที่คงค้างทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้กำหนดดิฉัน 30 วัน ต่อมา 26/05/52 เจ้าหน้าที่ที่มายึดรถบอกให้ดิฉันโอนเงินเข้าบัญชีของบุคคลคนหนึ่ง 10,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้าโอนเข้าบัญชีบริษัทโดยตรงเขาจะไม่ตัดบัญชีให้เนื่องจากถูกบอกเลิกสัญญาแล้ว ต่อมาวันที่ 28 ดิฉันได้รับหมายศาลให้ไปขึ้นศาลในวันที่ 13/07/52 เรื่อง ผิดสัญญาเช่าซื้อ เรียกทรัพย์คืน เรียกค่าเสียหาย ต่อมาวันที่ 2/6/52 ดิฉันได้โอนเงินเข้าไปอีก 15,000 บาท ซึ่งเป็นบัญชีเดิมกับที่ได้โอนไป ซึ่งเจ้าหน้าที่มายึดรถบอกว่าจะทำเรื่องให้เอารถคืนให้ พอวันที่ 3/06/52 ดิฉันได้รับจดหมายแจ้งว่าจะนำรถออกขายทอดตลาดในวันที่4/6/52 ซึ่งดิฉันคิดว่าทำไมเร็วอย่างนี้ และดิฉันได้โทรไปสอบถามที่สำนักงานเขาบอกว่าเงินที่ดิฉันโอนมาเขาไม่ได้รับ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วแสดงว่าดิฉันถูกหลอกใช่ไหม และดิฉันยังจะต้องไปขึ้นศาลอีกหรือไม่ทั้งที่เขาได้ยึดรถของดิฉันไปแล้ว และยังไม่ทราบว่ารถของดิฉันจะถูกนำไปขายทอดตลาดในราคาเท่าไหร่ และดิฉันจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปดีค่ะ ถึงจะได้เงินคืน
เรียน คนเดือดร้อน
คุณถูกหลอกแน่นอน คนที่เขาให้คุณส่งเงินนั้นแหละเป็นคนหลอก สำหรับกรณีของคุณเรื่องก็คงไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแต่คุณคงขาดส่งเงินถึง ๓ งวด เขาก็มายึดรถไปแล้วดำเนินการฟ้องร้องคดี ซึ่งคุณก็ได้รับทราบแล้ว แต่คุณไม่เชื่อ กลับไปเชื่อใครก็ไม่รู้ที่บอกทางโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นคดีที่เขาดำเนินอยู่ก็คงดำเนินเรื่อยไป ซึ่งคงจะตัดสินแล้ว เขาถึงแจ้งให้ทราบว่าจะนำรถออกขายทอดตลาด ซึ่งในเวลาที่ขาย ถ้าคุณไม่คอยไประวังรักษาประโยชน์ เขาก็คงขายไปถูก ๆ แล้วอีกไม่ช้าเขาก็คงแจ้งให้ทราบว่าเมื่อขายรถแล้วคุณยังเป็นหนี้อีกเท่าไร แล้วก็จะเงียบหายไปอีกพักหนึ่ง เพื่อปล่อยให้ดอกเบี้ยมันเพิ่มพูนขึ้น พอได้ที่ดีแล้วเขาก็จะมายึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือน สำหรับเงินที่คุณจ่ายให้ใครไปนั้น คงยากที่จะเอาคืน เพราะคุณไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แต่เบอร์โทรศัพท์ของเขาซึ่งเขาก็ปฏิเสธแล้วว่าเขาไม่ได้รับเงิน
