ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    035446  ถูกหลอกว่าเป็นที่ ภ.บ.ท.5คนไม่รู้กฏหมายแต่อยากขอความยุติธรรม10 มิถุนายน 2552

    คำถาม
    ถูกหลอกว่าเป็นที่ ภ.บ.ท.5

    เมื่อวันที่ 11 ธ.ค 2551 แม่ดิฉันเดินทางไปวางมัดจำที่ดินจำนวน 200,000 บาท ที่จังหวัดกบิลบุรี โดยก่อนหน้านั้นมีการเดินทางไปดูที่ดินแล้ว มีการยืนยันจากเจ้าของที่ดินว่าไม่ใช้ที่ดิน สปก. แน่นอน เพราะแม่ดินฉันบอกตอนแรกแล้วว่าไม่เอาที่ดินสปก. และในวันที่ 11 ธ.ค 2551 เจ้าของที่ดินและสามีเอาใบ ภบท.5 (ถ่ายเอกสาร) โดยอ้างว่าตัวจริงหาย แต่เดี๋ยวจะไปขอคัดที่ อบต. มาให้ ด้วยความที่สามีเจ้าของที่ดินเป็นกำนัน แม่ดิฉันจึงหลงเชื่อ ในหนังสือสัญญามีตกลงกันไว้ว่าจะมาโอนที่ดินและวางเงินที่เหลือในวันที่ 30 พ.ค 2552 แต่พอถึงวันที่ 30 พ.ค 2552 เป็นวันเสาร์พอดี จึงเลื่อนนัดมาเป็นวันที่ 1 มิ.ย 2552 ซึ่งเป็นวันจันทร์ ดิฉันและแม่ก็เดินทางมาถึง แต่ปรากฏว่าเจ้าของที่ดินกับที่ดินข้างเคียงมีปัญหากันเรื่องเขตแดนตกลงกันไม่ลงตัว จึงได้ทำการนัดเจ้าหน้าที่ดินว่าวัดเขตแดนกัน และนัดดิฉันมาใหม่ในวันที่ 5 มิ.ย 2552 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับเจ้าหน้าที่มาวัดเขตแดน และดิฉันกับแม่ก็เดินทางมาตามนัด ปรากฏว่ามาเจอเจ้าพนักงานที่ดิน เจ้าหน้าบอกว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดิน สปก. ไม่สามารถ ขายได้ ดิฉันจึงไม่วางเงินที่เหลือ และขอเงินมัดจำคืน แต่ทางเจ้าของที่ดินและสามียังยืนกรานว่าโอนได้ ดิฉันจึงไปแจ้งความข้อหาฉ้อโกงมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ โดยตั้งแต่แรกอ้างว่าเป็นที่ดินที่เป็น ภบท.5 มีเจตนาหลอกลวง ทั้ง ๆ ที่สามีของเจ้าที่ดินเป็นถึงกำนัน ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐคนหนึ่งเหมือนกัน ไปแจ้งความในวันที่เกิดเหตุเลย คือวันที่ 5 มิ.ย 2552 ที่สถานีตำรวจกบิลบุรี ร้อยเวรให้ดิฉันไม่ไกล่เกลี่ยกันวันที่ 9 มิ.ย 2552 แต่คู่กรณีไม่ได้เดินทางมา ร้อยเวรจึงจะส่งสำนวนฟ้องให้

    เรื่องที่ดินฉันจะรบกวนถามอาจารย์คือ

    1. โอกาสที่ดิฉันจะได้เงิน 200,000 บาท ที่วางมัดจำคืนมีมากน้อยเพียงใด

    2. ถ้าส่งฟ้องแล้วดิฉันแพ้คดี ดิฉันสามารถส่งฟ้องต่อได้อีกไหม มีวิธีดำเนินการอย่างไร

    3. โอกาสที่ดิฉินจะชนะคดีมีมากน้อยเพียงใด กรุณาอธิบายรายละเอียดด้วยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง เพราะดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมาย

    คำตอบ

    1. ตอบไม่ได้หรอก นอกจากจะเดา ๆ เอา เพราะแม้คุณจะชนะคดี ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะได้รับเงินคืน เพราะถ้าเขาไม่มีเงินมาคืนและไม่มีทรัพย์สินให้ยึด คุณก็ยังไม่ได้เงินคืนอยู่ดีแหละ

    2. ถ้าเป็นเรื่องเดียวกันก็ฟ้องอีกไม่ได้ ได้แต่จะอุทธรณ์ฎีกากันต่อไป

    3. เดาไม่ถูกหรอก เพราะการเป็นคดีความนั้นจะชนะหรือแพ้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง นอกจากเกี่ยวกับข้อเท็จจริงแล้วยังขึ้นอยู่กับวิธีการดำเนินคดีในศาลของทนายความด้วย  อนึ่ง ตามเท็จจริงที่คุณบอกว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดิน ภบท.๕ จึงซื้อนั้น แสดงให้เห็นว่าคุณเองยังเข้าใจผิดในสถานะของใบ ภบท.๕ อยู่มาก เพราะใบ ภบท.๕ เป็นเพียงใบเสร็จรับเงินที่แสดงว่ามีคนไปเสียภาษีบำรุงท้องที่เท่านั้น ส่วนเขาจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือมีสิทธิในที่ดินหรือไม่ ไม่เกี่ยวกัน ฐานะของตัวใบ ภบท.๕ น่ะแย่กว่า สปก.เป็นไหน ๆ เพราะ สปก.นั้นอย่างน้อยยังแสดงว่าที่ดินนั้นเป็นของรัฐแต่ได้อนุญาตให้ผู้มีชื่อใน สปก.ทำกินไปจนตลอดชีวิต และตกทอดต่อทายาทได้ด้วย ส่วนใบ ภบท.๕ นั้น ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่เป็นป่าสงวน คนเข้าทำกินโดยการบุกรุกเสียมากกว่า

      


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    10 มิถุนายน 2552