หนี้บัตรเครดิตและสถานออกกำลังกาย
เรียน อ.มีชัยที่เคารพ
ดิฉันได้เคยสมัครเป็นสมาชิกของสถานออกกำลังกายแห่งหนึ่งในเมืองไทยเมื่อปี 2548 ตามหนังสือสัญญาต้องเป็นสมาชิกนาน 1 ปี และต้องจ่ายค่าแรกเข้าเป็นจำนวนเงินสำหรับ 3 เดือนแรก ดิฉันจ่ายเงินสำหรับ 3 เดือนแรกไป และได้สอบถามทางตัวแทนขายว่า ถ้าดิฉันมีเหตุ เช่นต้องเดินทางไปอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ดิฉันจะสามารถยกเลิกสภาพสมาชิกได้หรือไม่ ทางตัวแทนขายบอกว่าได้ ดิฉันก็ได้ตกลงใจเชื่อตามนั้น และได้ลงชื่อสมัครสมาชิกไป
ในวันถัดมาดิฉันได้ไปสมัครเพื่อใช้บริการ Personal Trainer เพิ่มเติม และในคืนนั้นเอง ดิฉันได้ทราบว่าจะต้องเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ ภายใน 3 เดือน ดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปทางสถานออกกำลังกายเพื่อแจ้งว่า ดิฉันไม่สามารถที่จะอยู่ใช้บริการได้ และต้องการยกเลิก Personal Trainer เนื่องจากทางตัวแทนขายได้แจ้งดิฉันว่าดิฉันมีสิทธิที่จะทำได้ทางเค้าบอกมาว่า ได้ตัดบัตรเครดิตของดิฉันไปแล้ว (ภายในเวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง) ให้ดิฉันไปติดต่อกับบัตรเครดิตเอง ดิฉันก็ทำหนังสือ dispute รายการใช้จ่ายนั้น ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 10000 บาท ไป หลังจากนั้นก็ได้รับทราบจากตัวแทนทางบัตรเครดิตว่า กำลังดำเนินเรื่องอยู่ แล้วดิฉันก็ได้เดินทางมาอยู่ต่างประเทศตั้งแต่นั้นมา คำถามของดิฉัน ก็คือ
1. ทางบ้านของดิฉันที่เมืองไทย ได้รับหนังสือจากทางทนายความของบัตรเครดิตว่า ให้ดิฉันไปชำระเงินจำนวนนั้น ทั้งๆที่ดิฉันยังไม่ได้รับคำตอบจากการที่ดิฉันยื่นเรื่องขอ dispute รายการไป อาจารย์ว่าดิฉันควรจะต้องไปชำระเงินจำนวนนั้นหรือไม่คะ ทั้งๆที่ดิฉันไม่ได้ไปใช้บริการ Personal Trainer นั้นแม้แต่ครั้งเดียว
2. ทางบริษัทบัตรเครดิตจะทำการฟ้องดิฉันหรือไม่ และถ้าจะฟ้องต้องฟ้องภายในระยะเวลาเท่าใดคะ
3. เนื่องจากในสัญญากับทางสถานออกกำลังกาย ดิฉันจะต้องเป็นสมาชิกเป็นจำนวน 1 ปี แต่ดิฉันได้ใช้บริการและจ่ายค่าสมาชิกไปเพียง 3 เดือนเมื่อแรกเข้า และไปใช้บริการในระยะไม่ถึง 3 เดือน ทางบริษัทจะสามารถฟ้องดิฉันเรื่องการผิดสัญญาได้หรือไม่คะ แล้วต้องฟ้องภายในระยะเวลาเท่าใด ดิฉันเคยลองสอบถามไปทางเค้าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นใหม่ๆ เพื่อให้ทางตัวแทนขายที่ขายสมาชิกภาพให้ดิฉันเป็นพยานว่าได้แจ้งดิฉันเรื่องการยกเลิกสมาชิก แต่ทางสถานออกกำลังกายแจ้งว่า พนักงานขายคนนั้นได้ลาออกไปแล้ว
สำหรับตัวดิฉันเองก็ไม่ได้มีความคิดจะหนีหนี้หรืออะไรอย่างนั้นเลยค่ะ เพราะอันที่จริงแล้วดิฉันก็สามารถที่จะชำระหนี้จำนวนนั้นได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแต่ดิฉันมีความรู้สึกว่า ดิฉันเป็นผู้บริโภค ดิฉันน่าจะมีสิทธิในการใช้สิทธิของความเป็นผู้บริโภคโดยที่ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ดิฉันอาจคิดไม่ถูกต้องในเรื่องนี้ แต่ก็อาจจะมาจากความที่ไม่รู้กฏหมายอย่างกระจ่างนัก
ขอความกรุณาอ.ช่วยตอบข้อข้องใขของดิฉันด้วยนะคะ
ขอบคุณอย่างสูงค่ะ
|