โอนที่ดินชื่อน้องชาย แต่แม่ถือสิทธิ
เรียนท่านอาจารย์มีชัยที่เคารพ
ปัญหาเกิดจากคุณแม่ติดหนี้ท่วมตัว (มีคนบอกว่าแม่ติดการพนัน) ที่ดินที่เป็นของคุณแม่รวมทั้งทรัพย์สินและแก้วแหวนเงินทองก็นำไปจำนำและจำนองเกือบจะไม่มีเหลือแล้ว และมาขอยืมเงินจากทุกๆคนที่เจอะเจอ คุณแม่มาขอเงินและยืมเงินดิฉันบ่อยมาก ครั้งล่าสุด คุณแม่มาขอยืมเงินดิฉัน1ล้าน ดิฉันต้องการปลูกบ้านบนที่ดินทั้ง2แปลงซึ่งตามกฎหมายเป็นชื่อดิฉันและของน้องชายคนละโฉนด (คุณแม่ได้โอนที่ดินให้ดิฉันและน้องชายถือไว้คนละแปลง ของน้องชายถือไว้ประมาณ3ปี ของดิฉันถือไว้ประมาณ10ปีตามกฎหมาย แต่จะคอยสั่งและห้ามไม่ให้แตะต้องและคิดเสมอว่าทั้งสองแปลงเป็นของคุณแม่ จนไม่มีใครกล้าคิดว่าเป็นของตนเอง) จึงขอแลกเงิน1ล้านกับซื้อ สิทธิการเป็นเจ้าของที่ดินอย่างสมบูรณ์ในที่ดินที่ชื่อเป็นของตนเอง กับขอซื้อสิทธิในที่ดินที่เป็นของน้องชายตนเอง โดยการทำหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน2โฉนด ระหว่างคุณแม่กับตัวดิฉัน ซึ่งทางน้องชายได้รับทราบและลงลายชื่อเป็นพยานในหนังสือฉบับนี้ และคุณแม่จึงให้ใบยินยอมที่มีลายเซ็นของน้องชาย รวมทั้งเอกสารของน้องชายให้ไปทำการโอนที่ คำถามคือว่า
1.ที่ดิฉันทำหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน2โฉนด ระหว่างคุณแม่กับตัวดิฉัน นี้โดยมีน้องชายได้รับทราบและลงลายชื่อเป็นพยานในหนังสือฉบับนี้ และคุณแม่จึงให้ใบยินยอมที่มีลายเซ็นของน้องชาย รวมทั้งเอกสารของน้องชายให้ไปทำการโอนที่
สรุปว่า ดิฉันทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ กับที่ดินของน้องชาย ?
และสามารถใช้หนังสือฉบับนั้น เป็นหลักฐานได้หรือไม่?
2.น้องชายสามารถเรียกร้องที่ดินคืนจากดิฉันได้หรือไม่ ? เพราะดิฉันนำใบยินยอมที่ว่างและมีแต่ลายเซ็นของน้องชาย รวมทั้งเอกสาร ไปที่ที่ดินเพียงลำพัง
3.ตอนนี้ชื่อตามกฎหมายเป็นของดิฉัน สรุปว่าดิฉันควรปลูกบ้านในที่ดินส่วนที่เดิมเป็นชื่อของน้องชายได้หรือไม่?
4. ถ้าคุณแม่มาขอยืมเงินจำนวนมากๆอีก ดิฉันควรทำอย่างไร ? ดิฉันเคยคิดว่าวิธีนี้จะเก็บรักษาทรัพย์สินของครอบครัว ดีกว่าปล่อยให้แม่เอาไปจำนองถูก ๆ เพราะ แม่จะให้ลูกแทบทุกคนเซ็นต์ใบยินยอมที่ดิน (ดิฉันเคยต้องไปเซ็นต์กู้เงินเพราะแม่เอาที่ดินชื่อดิฉันไปกู้เงินดอกร้อยละ2ต่อเดือน) แต่ เหตุการณ์นี้ ดิฉันเข็ดมาก เพราะ เมื่อไปโอนที่ดินชื่อน้องชายเสร็จสิ้นแล้ว คุณแม่ เริ่มก่อปัญหาคือคุณแม่ขอเพิ่มเงินอีก บอกว่าเงิน1ล้านมันน้อยเกินไปสำหรับที่ดิน2แปลง และพูดจาไม่ดี หาว่าดิฉันแย่งมรดกน้อง เพราะถึงแม้ว่าทุกคนในครอบครัวก็รู้ว่าจะทำอย่างนี้กับทุกคน คือมีชื่อแต่ไม่มีสิทธิทำอะไร แต่เป็นเรื่องปกติ ก็จะอดไม่ได้ที่จะคิดว่าที่เป็นของตนเอง ทำให้พี่น้องแตกคอกัน
5.ดิฉันกลัวว่า หลังจากทำบ้านเสร็จแล้ว แม่จะตามมาอ้างสิทธิเป็นเจ้าของบ้านอีก เพราะบอกว่าเงินที่ให้มันน้อยเกินไป (เพราะขนาดบ้านที่ดิฉันอาศัยอยู่ แม่ยังเรียกเก็บค่าเช่าบ้าน ยิ่งเวลาเครียดไม่มีเงินใช้ จะด่าว่า ดิฉันเกิดมาเคยให้อะไรแม่บ้าง เงินที่ให้แม่ ให้มาแค่นิดเดียว แม่จดหมดนะว่าให้แม่มาเท่าไหร่) ดิฉันมีเงินไม่มาก ควรอดทนสร้างบ้านบนที่ดินผืนนั้นไหม หรือ ปล่อยทิ้งไว้ แล้วเอาคืนแม่ไป โดยขอเงิน1ล้านคืน (แต่คิดว่าแม่คงจะไม่มีคืนให้) สรุปว่า ดิฉันควรอดทนสร้างบ้านบนที่ดินผืนนี้ หรือ ปล่อยทิ้ง ไม่แตะต้องที่ดินผืนนั้น โดยเสียเงิน1ล้านและเสียโอกาสที่นำเงิน1ล้านไปใช้ประโยชน์ ?
กราบขอบพระคุณอาจารย์มากๆๆๆค่ะ |