กรายเรียท่านอาจารย์มีชัย
เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2529 คุณพ่อของดิฉันได้ซื้อที่ดินจากนายโซบ(นามสมมติ) ซึ่งมีบุตรเล็กอยู่ 3-4 คน และที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นเอกสาร น.ส.3ก. เป็นกรรมสิทธ์ของนายยูซบ (สมมติ) บิดาของนายโซบ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนวันที่ซื้อขาย ที่ดินแปลงดังกล่าวจึงเป็นที่ดินมรดกที่นายโซบเป็นทายาทสายตรงเพียงผู้เดียว แต่ด้วยเหตุอย่างไรไม่ทราบ เอกสารดังกล่าวไม่มีการโอนกันที่สำนักงานที่ดินให้เรียบร้อย แต่มีการทำสัญญาซื้อขายกันโดยระบุชัดเจน ว่าพ่อของดิฉันได้ชำระเงินค่าที่ดินไปครบจำนวนแล้ว และพ่อดิฉันได้เข้าปลูก พืชเกษตรประเภทไม้ยืนต้น และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาตลอด จนปัจจุบัน มีคนรอบข้างรู้เห็นการเข้าทำประโยชน์โดยตลอดมา
ดิฉันขอเรียนถามอาจารย์ว่า กรณีเช่นนี้ที่ดินดังกล่าวจะถือเป็นการครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่และ วิธีการดำเนินการต้องทำอย่างไรบ้างจึงจะได้กรรมสิทธ์อย่างถูกต้อง เนื่องจากทุกวันนี้พ่อดิฉันก็อายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไป ที่ดินแปลงนี้จะเป็นปัญหาต่อลูก ๆ และได้เคยปรึกษากับหัวหน้าสำนักงานที่ดินแล้ว ได้รับคำตอบที่แสดงให้เห็นว่ายุ่งยากเหลือเกิน เช่น ต้องไปติดตามลูก ๆ ของนายโซบมาให้หมดเพื่อเซ็นโอน (ปัจจุบันนายโซบเสียชีวิตแล้ว) ลูก ๆ ของนายโซบ ทุกคนกระจัดกระจายกันไปหลายที่ติดตามยาก พ่อดิฉันรู้สึกรำคาณการแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ดินจึงไม่ได้ดำเนินการใด ๆ อีกเลย ขอบพระคุณอย่างสูงในคำปรึกษาค่ะ
การที่นายโซบขายที่ดินและส่งมอบให้กับบิดาคุณ ต้องถือว่านายโซบได้สละการครอบครองให้กับบิดาของคุณแล้ว บิดาคุณย่อมได้สิทธิครอบครองนับแต่นั้นมา คุณควรไปยื่นขอออกเอกสารใหม่เป็นชื่อของบิดาของคุณ หากเจ้าหน้าที่เขาไม่ยินยอมทำให้ (ซึ่งเขาก็คงไม่ยินยอมทำให้เพราะเกิดอะไรขึ้นเขาอาจต้องรับผิดได้) บิดาคุณจึงต้องฟ้องศาลปกครองเพื่ออาศัยคำสั่งศาลให้เขาดำเนินการให้