เนื่องจากกระผมเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่หลายใบ ซึ่งทางศาลได้บังคับคดีให้มีการอายัดเงินเดือนและก็ได้ดำเนินการส่งอยู่กับสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนนทบุรีครับ จนหมดไปแล้ว 1 ใบของธนาคารกรุงไทยครับ และกำลังจะส่งใบอื่นที่มีคำพิพากษาต่อ ซึ่งทยอยกันมาที่บริษัทให้อายัดเงินเดือน
30 % แต่มาวันนึงมีหมายศาลมาจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ โดยทางธนาคารทหารไทยเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ให้มีการอายัดเงินเดือน เนื่องจากทางผมได้ย้ายทะเบียนบ้านจากนนทบุรีมายังสุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านที่มีชื่อผมเป็นผู้กู้ร่วม ทางผมได้เดินทางไปติดต่อยังสำนักงานบังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ และได้แจ้งให้ทราบว่าทางผมกำลังถูกอายัดเงินเดือนและผ่อนชำระเป็นงวดๆให้กับสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนนทบุรีอยู่ แต่ทางเจ้าหน้าที่บังคับคดีไม่ฟังแล้วแจ้งให้ผมไปนำหนังสือรับรองเงินเดือนมาให้ดู ว่าทางเขาจะหักเพิ่มอีกได้หรือไม่ ทางผมก็ไม่ได้สนใจคิดว่าทางบังคับคดีสมุทรปราการมาทีหลังก็น่าจะต้องรอให้ผมส่งทางแบงค์อื่นให้หมดก่อน จนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมาได้มีหมายอายัดมาติดที่หน้าบ้าน ว่าบ้านผมโดนยึดเตรียมจะนำไปขายทอดตลาด เนื่องจากคดีบัตรเครดิตยอดหนี้ 25,000 บาท(สองหมื่นห้าพันบาท) จากทางธนาคารทหารไทย โดยสำนักงานบังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ ทางผมก็ได้ปรึกษาทางทนายซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าทางโจทก์สามารถทำได้ แต่ทางผมอยากจะขอเรียนถาม ว่าทางบังคับคดีต้องทำขนาดนี้เลยเหรอครับ ในเมื่อทางผมก็ถุกอายัดเงินเดือนโดยบัตรใบอื่นอยู่ แล้วทำไมต้องมายึดบ้านผมด้วยครับ แล้วผู้กู้ร่วมกับผมที่ไม่ทราบเรื่องอะไรก็ต้องไม่มีบ้านอยู่ด้วยเหรอครับ ปัจจุบันทางผมก็ตกงานอยู่ครับ ไม่ทราบจะมีปัญญาที่ไหนหาเงินมาจ่าย แล้วถ้าหาเงินมาจ่ายได้ทางบังคับคดีสมุทรปราการคงมาทำเรื่องยึดบ้านผมอีกได้ใช่ไหมครับถ้าบัตรใบอื่นมาฟ้องอีก เวลาอายัดเงินเดืนอเขายังอายัดแค่ 30% ให้มีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายบ้าง แต่นี่ทางบังคับคดีสมุทรปราการกะไม่หใมบ้านอยุ่เลยหรือครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ