จะทำอย่างไรดี
เรียน ท่าน อ.มีชัย
ดิฉันถูกนาย ก.หลอกให้ไปเจาะบ่อน้ำและก่อสร้างแท้งค์น้ำ ให้กับวัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เป็นมูลค่า เกือบ ๒ แสนบาท โดยได้มีการทำสัญญารับเหมาก่อสร้างกันที่บ้านของดิฉัน โดยที่ นาย ก.ให้ดิฉันลงลายมือชื่อในสัญญา แล้วนาย ก.ก็นำเอาสัญญา ไปให้ใครก็ไม่รู้ลงนามเป็นผู้ว่าจ้าง ฝ่ายเดียว ซึ่งนาย ก.ก็ได้ลงนามในสัญญาเป็นพยานให้ด้วย แล้ว นาย ก.ก็นำเอาสัญญาคู่ฉบับให้ดิฉันถือไว้หนึ่งชุด (นาย ก.อ้างว่า ผู้ว่าจ้างเป็นตัวแทนมูลนิธิการกุศลแห่งหนึ่ง ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้จัก และนาย ก.ก็เคยทำงานเช่นนี้มาแล้วหลายแห่ง โดยมอบให้แก่วัดเพียงประการเดียว) ดิฉันเองตอนนั้นหลงเชื่อ เพราะ นาย ก.พูดจามีหลักมีฐานดีมาก พูดจาน่าเชื่อถือ อ้างถึงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังด้วย ทำให้ดิฉันเกิดความศรัทธาและเชื่อในคำพูดและเชื่อในข้อความในสัญญาด้วย ดิฉันจึงให้ลูกน้องไปดำเนินการเจาะบ่อน้ำและก่อสร้างแท็งค์น้ำตามสัญญา ให้กับวัด......จนแล้วเสร็จ ตั้งแต่เดือน สิงหาคม ปี ๒๕๕๑
หลังจากนั้นดิฉันก็ติดตามทวงถามเงินค่าจ้างจาก นาย ก.ตลอดมา แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา อ้างโน่นอ้างนี่ตลอดเวลา ดิฉันจึงไปสอบถามกับเจ้าอาวาสของวัดที่ดิฉันไปเจาะน้ำและก่อสร้างฯ ให้ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ นาย ก.เป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด ตอนนี้ก็ทำพิธีถวายสิ่งก่อสร้างให้กับวัดไปแล้ว ดิฉันจึงบอกกับเจ้าอาวาสวัดว่า ช่วยติดตามเงินค่าจ้างจากนาย ก.ให้ดิฉันด้วย เพราะเดือดร้อนมาก ทางวัดก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรให้
จนกระทั่งถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ดิฉันจึงเขียนหนังสือทวงถามค่าจ้างจากนาย ก.ให้นำเงินค่าจ้างมาชำระให้กับดิฉันภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งดิฉันจัดการส่งทาง ปณ.ตอบรับ (การ์ดสีเหลือง) เก็บสำเนาหนังสือและหลักฐานของ ปณ.ไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งถึงเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๒ ดิฉันก็ยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด เลยกำหนด ๗ วันมาหลายวันแล้วค่ะ
และเมื่อวานนี้ ( ๒๐ มี.ค.) ดิฉันจึงเข้าไปปรึกษาเรื่องนี้กับร้อยเวรที่โรงพักในเขตพื้นที่ที่ดิฉันมีภูมิลำเนาอยู่ โดยนำเอกสารต่างๆ คือ สัญญาว่าจ้างคู่ฉบับ กับหนังสือทวงถามกับ ปณ ตอบรับ ไปด้วย แต่ร้อยเวรอ้างว่า ทำอะไรไม่ได้ ต้องให้ดิฉันไปแจ้งความเอาผิดกับทางวัดเอง เพราะนาย ก.เป็นเพียงพยานในเอกสารสัญญาเท่านั้น เขายังไม่ได้ทำผิดอะไร ดิฉันจะแจ้งความว่านาย ก.ฉ้อโกงดิฉัน ร้อยเวรก็ไม่ยอมรับแจ้งค่ะ
ดิฉันกลุ่มใจมากไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงขอเรียนถามอาจารย์ว่า ดิฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดีเพราะดิฉันต้องถูกนาย ก.ฉ้อโกงทรัพย์สินจากดิฉันไปแน่ๆ แล้ว
๑. ดิฉัน จะแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับ นาย ก. ณ โรงพักในเขตท้องที่ ที่มีการทำสัญญากัน ได้หรือไม่ค่ะ ในข้อหาฉ้อโกง หรือจะเป็นข้อหาอะไร เป็นความผิดตามกฎหมายอะไรบ้างคะ (ดิฉันจะได้นำไปปรึกษากับทางร้อยเวรอีกครั้งค่ะ หรืออาจจะขอพบกับทางผู้กำกับอีกทางหนึ่งค่ะ)
๒. หรือดิฉันต้องไปแจ้งความร้องทุกข์เอากับทางวัด ดิฉันจะแจ้งความดำเนินคดีกับใครได้ จะแจ้งความกับเจ้าอาวาส กรรมการวัด หรือกับใครในข้อหาอะไรคะ
๓. ตำรวจที่เป้นร้อยเวรที่ดิฉันไปขอคำแนะนำ ทำถูกต้องหรือไม่คะ ที่แนะนำให้ดิฉันไปแจ้งความเอาผิดกับทางวัด ณ โรงพักในเขตพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ (คนละจังหวัดกับบ้านดิฉัน) และก็ไม่ยอมรับการแจ้งความจากดิฉันในฐานะเป็นผู้เสียหาย ที่ถูก นาย ก.ฉ้อโกง
๔. ดิฉันขอคำแนะนำจากท่าน อ.มีชัย ด้วยว่า ดิฉันควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในแนวทางที่ถูกต้องด้วยค่ะ
ดิฉันมีความทุกข์ใจมาก เพราะระยะเวลาตอนหลังๆ มานี้ นาย ก.ก็ท้าให้ไปฟ้องร้อง เพราะดิฉันทวงถามด้วยวาจามากขึ้น บ่อยขึ้น และ นานย กง ก็เริ่มมีพฤติการณ์ข่มขู่เอากับลูกน้องและครอบครัวของดิฉันตลอดเวลาว่า รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่มากมาย ไม่มีใครทำอะไรกับเขาได้ ทำให้ดิฉันหวาดกลัวว่าดิฉันกับคนในครอบครัวอาจจะไม่ปลอดภัย และสูญเงินค่าจ้างแน่นอนแล้ว ดิฉันขอคำแนะนำจากท่าน อ.มีชัย ต่อกรณีนี้ด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณท่านมากๆ ค่ะ |