ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    034075 การที่จะไม่ให้ถูกยึดบ้าน (คนหาจากกระทู้แล้ว ไม่ค่อยตรงครับ)ผมโชคดีครับที่ผมยังมีพ่อ5 มีนาคม 2552

    คำถาม
    การที่จะไม่ให้ถูกยึดบ้าน (คนหาจากกระทู้แล้ว ไม่ค่อยตรงครับ)

    เรียนอาจารย์มีชัย ที่เคารพ

    ผมอยากรบกวนถามอาจารย์เรื่องการถูกยึดทรัพย์สิน(บ้าน)ครับ

    แต่ก่อนอื่นผมขออนุญาตเล่านิยายน้ำเน่าของชีวิตครอบครัวๆนึงอย่างสั้นๆ รบกวนอาจารย์ช่วยรับฟังเรื่องๆนี้อีกสักเรื่องนะครับ (อาจารย์รับฟังปัญหาของคนอื่นๆมาอย่างมากมายเหลือเกินแล้ว ผมทราบครับ)

     

    ครอบครัวของกระผมมีอยู่ด้วยกันสี่คน พ่อ แม่ ลูกสองคน กระผมเป็นลูกคนโต

    ตั้งแต่จำความได้ชีวิตครอบครัวเราลำบากกันมาตลอดครับ ก็เพราะว่ามีคุณพ่อ ที่แม้ว่าจนบัดนี้นับว่าท่านมีเงินเดือนสูงมากถึงเจ็ดแปดหมื่นบาทต่อเดือนแล้ว แต่เงินที่พ่อควรจะให้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆภายในบ้านก็อัตคัตขัดเคืองมาตลอด เหมือนแทบจะไม่ให้เรา เวลาจะให้แม่ทีก็ยากลำบากเหมือนเค้นเลือดเอากับปู มักทะเลาะกันในเรื่องเงินมาตลอด ว่าเงินรายได้ของพ่อหายไปไหน คล้ายๆเหมือนเงินทองรั่วไหลออกไปจากบ้าน เคยสืบๆกัน รู้มาเลาๆว่าพ่อต้องไปมีภาระส่งเสียผู้หญิงคนอื่นครับ

    ที่แม่ทนอยู่กับพ่อจนถึงทุกวันนี้(เหตุผลของแม่ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยทั้งหมด)เพราะหนึ่ง หวังอยู่กันเป็นครอบครัวเกี่ยวกับหน้าตาทางสังคม สองเพื่อให้น้องเรียนจนจบปริญญาตรี เพราะแม่เองไม่มีรายได้มากพอที่จะส่งเสียน้องได้

    ทีนี้ปัญหาเริ่มตรงนี้อาจารย์ครับ คือนอกจากว่า พ่อจะไม่ให้เงินพวกเราใช้พอสมกับจำนวนเงินเดือนของพ่อแล้ว พ่อยังไปเป็นหนี้สินทั้งนอกและในระบบอีก (ไม่รู้จะผลาญเงินทองไปถึงไหน กู้ไปทำไม เป็นหนี้เพื่ออะไร ถ้าไม่ใช้เพื่อผู้หญิงอื่น)

    จนผมรู้สึกว่าพ่อ คงจะต้องเป็นหนี้ไปเรื่อยๆ (ในใจผมรู้สึกมานานแล้ว ว่าพ่อไม่มีเหตุผล หรือมีความผิดปกติหรือปล่าว?) เคยคุยกันหลายทีแล้ว แกไม่ยอมคุยด้วยเลยเอาแต่แสร้งไร้สาระ หรือบางทีก็อือ-ออไปแต่ก็ไร้ผล

    แล้วถ้าถึงวันหนึ่ง ถ้าแกต้องล้มละลายขึ้นมาจริงๆ

    ทุกวันนี้เงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ของพ่อ ถูกหักไปเพื่อชำระหนี้จนเกือบหมดเงินแต่ละเดือนจะไม่เหลือพอมาใช้จ่าย แม้แต่สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของตัวแกเองคนเดียวก็ยังไม่พอเลยครับ

    แล้วถ้าถึงวันหนึ่ง ถ้าแกต้องล้มละลายขึ้นมาจริงๆ ผมกลัวว่าเราจะโดนยึดบ้านอันเป็นทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวของครอบครัวเราครับ

    บ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้ ไม่ติดจำนองแบงค์ใดๆ "บ้านเป็นชื่อของพ่อและแม่ สองคน" ครับ  พ่อและแม่จดทะเบียนสมรสครับ

     

     

    ขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า

    1. ถ้าเผื่ออนาคต พ่อโดนเจ้าหนี้ฟ้องร้องหรือล้มละลาย ทำอย่างไรจึงจะป้องกันไม่ให้บ้านนี้ถูกเขายึดครับ

    - โอนมาให้ลูกเฉยๆเสียแต่ตอนนี้เลย (ป้องกันได้หรือไม่ครับ)

    - หรือให้ลูกซื้อบ้านต่อจากพ่อ (แล้วลูกจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อจากพ่อล่ะครับ บ้านราคาประมาณเป็นล้าน แต่ลูกมีเงินแค่แสน)

    - หรือไม่ต้องทำอะไร เพราะมีชื่อแม่ในบ้านด้วย (ผมว่าไม่น่าจะใช่ ถ้าเขาจะเอาก็น่าจะเอาได้ เพราะมีชื่อพ่อ)

     

    2 ถ้ามีวิธีการป้องกัน ไม่ให้บ้านถูกยึดอย่างไร (ที่ไม่ใช่ให้ใช้หนี้ให้หมด เพราะผมดูแนวโน้ม พฤติกรรมของบิดา เขาคงไม่มีทางใช้หนี้ได้หมดแน่ครับ มีแต่จะก่อหนี้เพิ่มเท่าที่สามารถจะก่อได้ ผมละกลุ้มใจจริงๆครับ) ขอความกรุณาอาจารย์ ช่วยแนะนำแหล่งที่ผมจะเข้าหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการนั้นๆอย่างครบถ้วนด้วยครับ

    กราบขอบพระคุณ และขออภัยอาจารย์หากมีความเห็นของกระผมอันใดที่ไม่เหมาะสมครับ    

    คำตอบ

    1. ถ้าปล่อยไปอย่างนี้ เวลาล้มละลาย บ้านนั้นก็ต้องแบ่งครึ่ง ครึ่งของพ่อก็จะถูกเจ้าหนี้เอาไปชำระหนี้  ทางที่ดีพวกคุณที่เป็นลูกก็ซื้อจากพ่อเสีย โดยให้ขายในราคาที่ถูกหน่อย


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    5 มีนาคม 2552