เรียน อ.มีชัย ที่เคารพ
ผมมีข้อข้องใจเกี่ยวกับกฎหมายและการที่ถูกฟ้องล้มละลายกับความเป็นจริงของชาวบ้านดังนี้ ในกรณีที่ผมไปยืมเงินเพื่อน 500 บาท และเพื่อนให้นำของมาจำนองซึ่งเขาก็ดูแล้วว่าของที่นำมาจำนองกับเงินที่เขาให้ยืมนั้นมีค่าเท่ากันหรือมีกำไลเขาถึงให้ยืมหรือโรงรับจำนำหากเราเอาของดไปจำนำหรือจำนองหากเขาดไม่มารับคืนสถานรับจำนองเขาก็ยึดคืนและก็แล้วกันไปเพราะเขาก็ได้ของที่เราเอาไปจำนำวซึ่งมันก็คุ้มกับเงินที่เขาให้จำนำของผมมาคิดว่าในกรณีคล้ายกันผมไปซื้อบ้านและที่ดินโดยผมทำสัญญากับธนาคารแล้วธนาคารก็เห็นแล้วว่าบ้านพร้อมที่ดินที่ผมจะซื้อมีราคาเท่ากับเงินที่ผมขอยืมจึงปล่อยให้ผมยืมเงินแล้วกรณีที่ผมประสพปัญหาขาดส่งเงินคึนเขาก็ยึดบ้านพร้อมที่ดินของผมไปมันก็น่าจะจบเหมือนกรณีดังกล่าวข้างต้นแต่มันทำไมไม่เป็นเหมือนกรณีดังกล่าวข้างต้นเพราะในเมื่อคุณปล่อยเงินให้ผมและผมกก็ให้บ้านพร้อมทีดินให้คุณเป็นหลักทรัพย์ประกันกรณีที่ผมไม่มีส่งคืนคุณก็ยึดไปซิครับจะไปขายหรือจะทำอะไรก็แล้วแต่แล้วทำไมกฎหมายถึงให้โอกาส ธนาคารนำไปขายเท่าไรก็ได้แล้วเอาส่วนต่างของดอกเบี้ยหรือเงินต้นมาฟ้องล้มละลายผมผมคิดว่ามันไม่น่าจะถูกต้องเพราะการที่ผมขอยืมเงินผมก็เอาหลักทรัพย์คือบ้านและที่ดินที่ผมขอซื้อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงินกู้ซึ่งธนาคารก็ดูแล้วว่ามันมีค่าพอกับวงเงินหรือมากกว่าจึงได้ปล่อยเงินกู้ให้แต่แล้วเขาก็เอามาฟ้องล้มละลายมันก็ตลกดีนะอาจารย์ผมว่าบ้านก็ยึดไปขายแล้วมันก็น่าจะจบเพราะก่อนทำสัญญาเขาก็ไปดูและก็ประเมินราคาแล้วว่ามันคุ้มเขาไม่ส่งคุณก็ยึดไปซิครับมันก็จบเหมือนหลักพื้นฐานของมนุษย์ในการขอยืมซึ่งกันและกันผมอาจเรียนน้อนในด้านกฎหมายแต่ก็มีประสพการณ์ในการดำรงชีพและพบกับสภาพความเป็นจริง